วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

2/27/2014 ผลการเทรดของตัวเอง ^0^


นี้เป็นการตัดย่อรายงานบางส่วนที่ผมได้รีวิวระบบเทรดตัวเอง แนวคิดตัวเองทั้งหมดอย่างซื่อสัตย์กับตัวเองที่สุด และสรุปทุกposition ที่ผ่านมือผมไป สรุปย่อๆ และผมอยากเก็บไว้ในบล็อค ^_^ อิ อิอิ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รายงานผลการเทรด

         รายงานฉบับนี้เนื้อหาทั้งหมดผมจะรีวิวด้านความเชื่อทั้งหมดในการเทรดของผม ระบบเทรดของตัวเอง แนวคิดแต่ละพอร์ตที่ได้เทรด สิ่งที่ผมกลัวในการเทรด  สิ่งที่ผมได้เห็นในการเทรดความรู้สึกต่างๆ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการเทรดตั้งแต่ที่ได้เข้ามาอยู่ในแคมป์นี้ ผมจะรวบรวมผลงานการเทรดแต่ละพอร์ตทุกๆposition ที่ผมได้เทรดและรีวิวไปทีละพอร์ตในมุมมองของตัวเองอย่างซื่อสัตย์กับตัวเองที่สุด  รายงานเล่มนี้ผมคิดว่าเสมือนเป็นการรีวิวแนวคิดและผลงานที่ออกมาในแบบรูปประธรรมที่สุด
       
 สุดท้ายขอขอบคุณพี่ต้านและมัดเล่กรุ๊ปที่ได้จัดตั้งแคมป์เชียงใหม่ขึ้นมา เพื่อให้เทรดเดอร์ได้เห็นรูปแบบการทำ งานของเฮดจ์ฟันด์ว่าเป็นอย่างไร  มีการแข่งขันขนาดไหน ขอบคุณมัดเล่กรุ๊ปที่ทำให้เด็กธรรมดาๆคนนึงได้อยู่ในบรรยากาศสภาพแวดล้อมของเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งผมรู้สึกว่าผมเป็นเด็กธรรมดาๆที่โชคดีมากๆ ที่มีโอกาสดีๆ ไม่แพ้กับเด็กส่วนใหญ่ในรุ่นเดียวกัน  ขอบคุณที่ให้โอกาศนี้นะครับ    




                                             “ คุณต้องตอบคำ  ถามให้ได้ว่าคุณอยากจะเป็นอะไรจริงๆในชีวิต 
                                  และ คุณก็ต้องพร้อมยอมเสียอะไรบางอย่างในชีวิตเพื่อที่จะเป็นเช่นกัน  
 สุภาษิตชาวอเมริกัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เริ่มแรกความรู้สึกตัวเองความเชื่อในการลงทุน

        สิ่งแรกขอพูดเกี่ยวกับความผิดพลาดในการลงทุน ผมเคยเทรดค่าเงินด้วยเงินต้น15,000บาท ซึ่่งเป็นเงินเก็บของตัวเองแล้วศูนย์เสียมันไป ตอนนั้นผมอายุ20ปี ตอนนั้นถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ มันทำให้ผมจำ ฝังใจและทำให้ผมคิดขึ้นได้ว่านี้มันไม่ใช่การลงทุนแล้ว การลงทุนจริงๆมันต้องสนุกต้องป้องกันความเสี่ยงได้ เงินมันต้องเติบโต พร้อมกับระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น หน้าตักมันไม่น่าจะหายไปได้ การลงทุนต้องมองความเสี่ยงทุกอย่างที่มันเป็นไปได้ทั้งโบรค แผนการเทรด มาจิ้น เงินหน้าตัก  ความผันผวนของสินค้า แม้กระทั่งตัวเทรดเดอร์เอง

เกี่ยวกับพื้นฐานแนวคิดที่ผมใช้กับทุกๆพอร์ตในการเทรดพอร์ตของมัดเล่กรุ๊ปเลย สิ่งแรกที่ผมมองก่อนก็คือความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ในบริบทของพอร์ตการเทรนในมัดเล่กรุ๊ป ที่ให้เป็นลักษณะกระสุน ผมจะไม่พยายามเทรดpositionติดๆกันในโซนเดียวกัน ผมจะเทรดสินค้าที่ไม่มีหมดอายุ นอกที่จะจำเป็นต้องเทรดจริงๆผมก็จะต้องเทรด ความเชื่อลึกๆก็คือผมกลัวที่จะศูนย์เสียเงินเริ่มต้นลงทุน และทำให้ผมรู้จักกับการเทรดแบบเคแซดเอ็ม ระบบที่ปกป้องเงินทุน ผมก็ศึกษาและทดลองด้วยตัวเองอย่างจริงจังในรูปแบบของตัวเองและวิธีนี้ก็ทำให้ผมรอดได้ในตลาดเงินที่ผันผวน และเป็นคอนเซ็ปที่ผมใช้ในการเทรดกับทุกๆพอร์ตที่ผมเทรนในมัดเล่กรุ๊ป จริงๆทุกอย่างมันมีทั้งด้านดีด้านเสียของมันหมด  

คอนเซ็ปนี้มันก็มีข้อดีที่ปกป้องเงินต้นทุน แต่ก็มีข้อเสียที่ผลตอบแทนน้อย ซึ่งเท่าที่เจอคนส่วนใหญ่จะให้น้ำ หนักความสำ คัญกับผลตอบแทนน้อย หากเรามองอีกมุมก็คือถ้าคอนเซ็ปนี้ป้องกันเงินทุนได้ ไม่ว่าจะมีหน้าตักสัก1ล้านหรือ 10 ล้าน มันก็จะยังไม่หายไปไหน เพราะความเสี่ยงมันถูกจำ กัดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วก็มีแต่การที่ขาดทุนทางบัญชีซึ่งก็ไม่ทำให้เงินหน้าตักเราหายไปไหน  ถ้าระบบนี้ได้ผลตอบแทนปีละ1%จากหน้าตักแค่1หมื่นบาท มันจะดูน้อยไป แต่หากมองอีกมุมนึง หากเรามีหน้าตัก10 ล้าน ผลตอบแทน1 % มันจะดูเยอะขึ้นเลยทีเดียวและมันสามารถโตต่อไปได้อีกเรื่อยๆตามตลาดได้   แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มองด้านนี้จึงทำให้เขาไม่สนใจคอนเซ็ปนี้และหาระบบที่ผลตอบแทนที่ดีกว่า  ซึ่งผมแค่คิดว่าเอาตัวรอดในตลาดทุนให้ได้ยาวนานที่สุด ยอมรับผลกำไรตามธรรมชาติของตลาดจะมอบให้
ก็คือสุดยอดของการลงทุนของผมแล้ว 

 ไม่ว่าใครจะเรียกมันว่าอย่างไร เคแซดเอ็ม ปรับต้นทุน มาเกดโมเดล ลงซื้อขึ้นขาย ซื้อถูกขายแพง ผมว่าคอนเซ็ปมันก็คล้ายๆกัน แล้วแต่สถาณการณ์ที่เราจะเอาไปประยุกต์ใช้  ซึ่งนี้คือหัวใจพื้นฐานของการเทรดของผมและมันอาจจะเป็นกำ แพงขึ้นมาหากมองด้านผลตอบแทน  ลึกๆผมเชื่อว่าการลงทุนไม่ว่าจะทำ อย่างไร วิธีการเทรดนั้นรูปแบบจะเหมือนเดิม ที่ต่างกันคือสินค้า ตัวสินค้าที่ต่างออกไปนั้นเองจะเป็นตัวทำ ผลตอบแทน  ลึกๆผมจึงให้ความสำ คัญและกำ  ลังฝึกเกี่ยวกับการวิเคราะห์สินค้ามากกว่าวิธีการเทรด  ว่ากันง่ายๆก็คือ แค่ลงซื้อขึ้นขาย ปรับต้นทุน ก็เกินพอสำ หรับการเทรดบริหารเงินของผมแล้วนะครับ ส่วนตัวผมชอบรูปแบบของพอร์ต Long Term Wealth ถ้าชุดความคิดนี้ผิดและไปไม่รอดสักวันผมก็จะได้เรียนรู้มันถึงแม้มันจะเจ็บปวดแต่มันก็คุ้มค่าพอที่จะเรียนรู้และผมก็ยอมรับมันหากมันเป็นเช่นนั้น

สุดท้ายที่ผมเขียนรีวิวชุดความคิดตัวเองยาวๆผมคิดเสมือนว่า หากผมเป็นผู้จัดการกองทุนผมอยากให้นักลงทุนรู้อะไรบ้างในแนวคิดของผม ผมบริหารมีความเสี่ยงขนาดไหน แผนการเทรดผมเป็นอย่างไร ผลการเทรด วิศัยทัศน์ผมเป็นอย่างไร ผมจึงเขียนออกมาในรูปแบบที่ผมอยากให้นักลงทุนเห็นและเข้าใจ ขอบคุณในความอดทนที่อ่านถึงบรรทัดนี้ครับ ขอบคุณครับ 

 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วิเคราะห์สะสมหุ้น:พอร์ตนี้เป็นพอร์ตที่ผมรู้สึกสนุกและตื่นเต้นมากๆตั้งแต่บอสเริ่มสอนวิธีการค้นหาหุ้น แนวคิดการเลือกหุ้น มุมมองเศรษฐกิจ แนวโน้มทิศทางการเติบโต เป็นการวิเคราะห์หุ้นแบบจริงจังครั้งแรกในชีวิตเลย ซึ่งระหว่างที่ผมคัดกรองหุ้นผมรู้สึกได้ฟิวยังกับตอนวอเร็นบัฟเฟตทำงานกับ   กองทุนของเบนจามินแกรแฮมเลย(จินตนาการล้ำ  มากฮ่าๆ)  วอเร็บบัฟเฟตก็ต้องนั่งหาหุ้นพื้นฐายวิเคราะห์หุ้นทั้งตลาด ผมใช้วิธีการคัดหุ้นดูจากราคาและ บุ๊คแวลู ผลกำ ไรของบริษัทเพียงแค่ตัวเลข ผมนั่งกรองหุ้นทีละตัวเพื่อซึมซับบรรยากาศเวิร์คฮาร์ดที่พยายามสร้างขึ้นมาเองและ
ผมรู้สึกชอบมาก

และแล้วผมก็ได้หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ราคายังถูกกว่าพื้นฐานบริษัทมา1ตัว  ผมถูกใจทั้งชื่อหุ้น บริษัท เจ้าของบริษัท และกิจการเลยทีเดียว  ผมลองสวมจิตวิญญาณของวอเร็นบัฟเฟตดูบ้างผมจึงเข้าไปศึกษารายงานประจำ ปีของบริษัท หนังสือเชิญชวนผู้ถือหุ้น สาร์นจากประธานกรรมการ งบการเงิน ซึ่งแน่นอนผมอ่านไม่รู้เรื่อง แต่ก็ทำให้เห็นภาพรวมรายได้การเติบโตของบริษัท ก็ทำ ให้เป็นข้อมูลการตัดสินใจได้มากเลยทีเดียว  สิ่งที่ผมคาดหวังจากบริษัทนี้คือ บริษัทลูกๆที่ถืออยู่สร้างกระแสเงินสดให้บริษัทแม่เติบโต ซึ่งมีทั้งบริษัทธนาคารการเงินโรงแรม สินค้าโภคภัทร์เนื้อวัว ซึ่งคนอเมริกาบริโภค เนื้อไก่กับเนื้อวัวส่วนใหญ่ ธุระกิจทั้งหลายนี้จะเพิ่มมูลค่าให้บริษัท และสะท้อนมาถึงราคาหุ้น 

**ผมไม่สามารถบอกชื่อหุ้นบริษัทนี้ได้เพราะผมกลัวว่าราคาพื้นฐานหุ้นตัวนี้จะเปลี่ยนไป มันกระทบต่อผลการดำ เนินงานของผมมี่ต้องใช้ต้นทุนที่สูงขึ้น 555555+

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สรุป มูลค่าผลกำไร/ขาดทุน


มูลค่าพอร์ตทั้งหมดใน MT4 พอร์ตที่ได้เทรนร่วมกับเทรดเดอร์ในแคมป์ทุกๆ position ที่เปิดผ่านมือผมทั้งหมด ทั้งพอร์ตเทรนส่วนตัวและพอร์ตทีมพอเอามาสรุป Nav และผลออกมาว่าผลงานผมเป็นบวก อ๊ากกก ผมรู้สึกดีใจมากๆและภูมิใจตัวเองมากๆไม่คิดเลยว่ามันจะกลายเป็นบวกได้ แต่ละพอร์ตเทรดไปด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน บ้างก็เทรดรู้สึกแย่บ้าง บ้างก็มีความสุขกับการเทรด แต่รวมๆผลที่ออกมามันดีกว่าที่คิดไว้เยอะมาก  สำ หรับผมที่จริงแค่บวก 1$หรือไม่ติดลบผมก็พอใจแล้ว ผมเชื่อว่าผลงานจริงๆมันต้องดูที่ระยะยาวว่าผมจะทำได้แค่ไหนบางทีระยะยาวกว่านี้Nav ผมอาจจะเป็นลบก็ได้ แต่สิ่งนึงที่ติดตัวผมไปตลอดก็คือ เรื่องของความเสี่ยงซึ่งมันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียภายในตัวมันเอง อย่างน้อยผมก็ดีใจแล้วผมคิดว่าผมโชคดีมากฟลุ๊คจริงๆ 

 สำหรับผลงานการเทรดทั้งหมดผมคิดว่าไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง ไม่ว่าposition นั้นลบมากขนาดไหน หรือบวกมากขนาดไหน การปิดบังposition หรือบิดเบือนสำ หรับผมมันก็คือการโกหกตัวเอง ฉะนั้นผมยอมรับซื่อสัตย์และเครพทุกๆ position ที่ผมเทรดเองเสมอไม่ว่าผลงานมันจะแย่แค่ไหนผมเชื่อว่าคนเราสามารถปรับปรุงได้ ถ้าเปิดใจยอมรับและเรียนรู้จากความผิดพลาด


สรุปผลพอร์ตเมเนเจอร์ ผลออกมาเป็นบวกครับ เย้ๆๆ ที่จริงผมเป็นคนเทรดไม่เก่ง  บางทีผมก็กลัวการเทรดด้วยซ้ำ    แต่ทุกๆครั้งที่ผมจำ เป็นต้องเทรด สิ่งหนึ่งที่ทำ ให้ผมสบายใจที่จะเทรดได้คือ การคุมความเสี่ยง การรู้ว่าความเสี่ยงทั้งหมดมันคืออะไรเราจะแก้มันด้วยอะไรนั้นคือสิ่งที่่ผมว่ามันสำ คัญพอๆกับ skill การเทรดมากมาย สำ หรับคำ ว่าคุมความเสี่ยงหรือแผนการเทรดทั้งหมดไม่ใช่หมายความว่าผิดแล้วคัดลอส แต่ความหมายคือเต็มใจที่จะแบกรับความเสียหายของ position เหล่านั้นได้มากแค่ไหนและได้นานแค่ไหน  เงินจำ  นวนเท่านี้สามารถ ทนกับpositionติดลบได้เยอะแค่ไหน ได้กี่position นั้นคือความสบายใจที่จะเทรดของผม เทรดเดอร์ต้องแยกให้ออกว่าพอร์ตไหนระบบปิด พอร์ตไหนระบบเปิด 
ผมเชื่อว่าหากเราจัดการposition บริหารพอร์ตที่ดี มันจะนำ  ผลตอบแทนที่ควรจะได้จากตลาดเข้ามาหาเราเอง  คำ ว่าเทรดเก่งในสายตาของผมไม่ได้วัดจากปริมาณCFที่ทำได้มากขึ้นทุกๆเดือน จริงๆแค่เทรดเดอร์คนนั้นเทรดposition ไม่ติดกันเกินไปใน1โซน ผมถือว่าเทรดเดอร์คนนั้นเก่งแล้วครับ สเปกการเลือกเทรดเดอร์ของผมมีแค่นี้เองครับ ^_^





วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประทับใจตั้งแต่ต้นปี57 เลย อิอิ


ประทับใจตั้งแต่ต้นปี57 เลย อิอิ
          เมื่อเดือนที่แล้วผมมีโอกาสได้เลือกหุ้นเพื่อสะสมเป็นทรัพย์สินของตัวเองและกองทุน 
ซึ่งถือว่าเป็นของขวัญที่ไม่ใช่สิ่งของแต่เป็นโอกาสที่บอสได้มอบหมายให้ผมได้ทดลองวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเองโดยมีเงื่อนไขบางอย่างคือราคาไม่เกิน 50$  อิอิอิอิ


เนื้อหาบางส่วนแนวคิดในการเลือกหุ้น (อารมณ์เหมือนเชียร์หุ้น 555+)
           จากข้อมูลบริษัทผมเห็นทรัพย์สินของบริษัทเติบโตขึ้นทุกๆปีในระยะยาว และบริษัทสามารถผ่านช่วงวิกฤตการเงินมาได้หลายๆรอบและหลายๆครั้ง บริษัทสามารถอาตัวรอดมาได้และหากเทียบกับตลาดอุตสาหกรรมS&P500,DOWแล้วเปอร์เซ็นการขึ้นของหุ้นสูงกว่าตลาดเป็นเวลาที่ยาวนาน และด้วยวิสัยทัศน์ของCEO ที่เลือกลงทุนในบริษัทหลากหลายอุตสาหกรรมออกไป ทำให้เวลาเกิดวิกฤตจะได้รับผลกระทบไม่มากนักซึ่งผมมองว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดีที่ราคายังถูกอยู่มากถ้าหากเทียบกับหุ้นหลายๆตัวในอุตสาหกรรมเดียวกัน
               ด้วยความเชื่อส่วนตัวลึกๆแล้ว จากข้อมูลบริษัทXXX ก็อยู่ในเครือของ Berkshirehathaway วิถีการดำเนินงานทัศนคติ  การปกป้องผลกำไร  วัฒนธรรมองค์กรต่างๆ นโยบายไปในทางเดียวกัน บางข้อมูลก็บอกว่า  XXXเป็นเหมือนเบิร์กไชร์แฮธาเวย์มินิ  เพราะการลงทุน นโยบายปันผล ผลดำเนินงานคล้ายๆกัน ผู้บริหารก็คล้ายๆกันบิร์กไชร์แฮธาเวย์มี วอเร็นบัฟเฟตและชาลีมักเกอร์ ส่วนXXX  มี เอียน คัมมิ่ง กับ โจเชฟ สเตมเบริก ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้คาดหวังว่าบริษัทXXX จะเติบโตและราคาหุ้นสูงลับฟ้าเหมือน Berkshirehathaway นะครับเพราะเรื่องของต้นทุน,ค่าเงิน,สินค้าราคาปัจจุบันกับอดีตมันต่างกันมาก นิสัยการใช้ชีวิตของคนก็เปลี่ยนไปมาก แต่สิ่งที่ผมคาดหวังกับบริษัทXXX ก็คือ บริษัทลูกๆที่บริหารอยู่สามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทแม่ได้อย่างเสม่ำเสมอและต่อเนื่องยาวนาน  ซึ่งเป็นแนวทางที่ผมรู้สึกดีและชอบวัฒนธรรมอยู่ลึกๆ  ผมจึงจัดหุ้นแนว Holding Companyป็นหุ้นตัวแรกในการถือครองและผมคิดว่าในระยะยาวผมจะได้เห็นมูลค่าที่แท้จริงของการดำเนินงานของมัน ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่ามันยังราคาถูกอยู่มากๆ คุ้มค่าที่จะซื้อเป็นทรัพย์สินระยะยาว 

มุมมองเล็กๆของการทำงาน
        วิสัยทัศน์การทำงานในเมื่อบอสให้โอกาสผมได้เลือกหุ้นด้วยมุมมองตัวเองและฝึกวิเคราะห์ด้วยตัวเอง  ผมก็จะขอใช้เวลาในส่วนนี้ให้เต็มที่ที่สุดอาจจะช้าหน่อย เพื่อหาข้อมูลวิเคราะห์ตามกำ ลังสมองเท่าที่ผมมีออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้คุ้มค่าพอทรัพยากรที่บอสให้โอกาส  และผมคิดเสมอว่านี้คือผลงานที่จะลงอยู่ในพอร์ตการทำงาน เหมือนเป็นการเปิดตัวฝึกคิดวิเคราะห์หุ้นในมุมมองเล็กๆของผม ผมจะคิดเสมอว่าทุกการเทรดลงทุนที่ผ่านมือผมไม่ว่าจะการฝึกหรืองานจริง มันคือเงินของนักลงทุนที่เชื่อมั่นและไว้ใจในตัวผม  หากเราไม่พยายามคิดพยายามลงทุนให้เหมาะสมแล้ว นักลงทุนก็จะเสียผลประโยชน์ไปเปล่าๆก็สู้ให้นักลงทุนถือเงินยังสดจะดีกว่า มาลงทุนกับเราที่ไม่ตั้งใจทำงาน  สุดท้ายผมคิดเสมอว่ามัดเล่กรุ๊ปก็เสมือนนักลงทุนที่ไว้ใจร่วมลงทุนในตัวผม ขอบคุณที่ให้โอกาสครับ
 



ในการวิเคราะห์เชิงลึก ผมยังต้องฝึกอีกเยอะมากๆๆๆๆ