วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ตำราพิชัยสงคราม

1.การศึกสงคราม คือวิถีแห่งกุศโลบาย

2.มีพลานุภาพ พึงแสวดงว่าไร้พลานุภาพ

3.จะทำสงคราม พึงแสดงว่าไม่คิดทำสงคราม

4.โจนตีใกล้ พึงแสดงว่าโจนตีไกล

5.โจนตีไกล พึงแสดงว่าโจนตีใกล้

6.ข้าศึกละโมบ พึงใช้ผลประโยชน์หลอกล่อ

7.ข้าศึกระส่ำระสาย พึงโจนตีพิชิต

8.ข้าศึกรี้พลมาก พึงเตรียมพร้อมเสมอ

9.ข้าศึกเข้มแข็ง พึงหลีกเลี่ยง

10.ข้าศึกฮึกเหิม พึงบั่นทอนขวัญกำลังใจ

11.ข้าศึกเยือกเย็น พึงยั่วให้ขาดสติ

12.ข้าศึกสุขสบาย พึงรังควานให้อ่อนเปลี้ย

13.ข้าศึกสามัคคี พึงยุให้แตกแยก

14.จู่โจมเมื่อข้าศึกไม่คาดฝัน

15.รุกรบเมื่อข้าศึกไม่เตรียมพร้อม

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

รีวิว การไปสอบโป๊กเกอร์มาเก๊า สิ่งที่ได้รับ จากมุมมองของผม

16 กรกฎาคม
วันที่ 16 ก.ค พี่ต้านประกาศว่าเทรดเดอร์จะต้องไปเล่นทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ ที่มาเก๊า เป็นการสอบการเรียนรู้เรื่องโป๊กเกอร์ของเทรดเดอร์และ เป็นการสอบเมนเตอร์ ให้บริหารจัดการงบประมาณในการไปแข่ง เมนเตอร์ที่ได้ไป มี2คนผมกับคุณชัช หลังจากที่พี่ต้านบรีฟเมนเตอร์ เราได้รู้วันที่ต้องไปคือ 23 ก.ค กลับวันที่ 29 ก.ค ซึ่งเทรดเดอร์จะไม่รู้วันที่จะต้องไปจนกว่าจะถึง2วัน ก่อนเดินทางรัสเซียไม่อยากให้เทรดเดอร์เตรียมตัวนาน ผมกับคุณชัชเลยวางแผนเรื่องของที่พัก การเดินทาง ของกินที่จะนำติดตัวไปด้วย จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลโรงแรมที่อยู่ใกล้กับสถาณที่แข่ง ภายใน1วันเราก็ได้จองที่พักและตั๋วเครื่องบินเสร็จเรียบร้อย
จากนั้นก็จัดเตรียมเรื่องของอาหารที่จะติดตัวนำไปมาเก๊าด้วย จากที่ผมได้คำนวนมาแล้วว่าการเล่นโป๊กเกอร์ถ้าเล่นแบบแย่สุดๆของสถิติ เทรดเดอร์ก็คงอดอาหารติดกันไม่เกิน4วัน(ถ้าเล่นแต่ cash game)  เพราะหลังจากนั้นถ้าเขาเล่นpoker นานพอเขาน่าจะพอมีโอกาสที่เล่นได้ดีได้รับโบนัส ผมจึงนำอาหารไปแค่สำหรับแค่ 4วัน วันละ3มื้อ อีก2วันเราคำนวนจากสถิติแล้วว่าเทรดเดอร์เรา น่าจะเล่นPoker ได้เงินมาเป็นค่าอาหารเอาชีวิตรอดได้ อาหารที่นำไป ขนมปัง 8 ชิ้น ข้าวมือถือ 4 อัน นมถั่วเหลือง 12กล่อง พี่เบนซ์กับพี่นนท์ไม่ค่อยมีอาการตื่นเต้นหรือกังวลเรื่องเดินทางหรือเรื่องที่พักและอาหาร แต่ยังคงกังวลเรื่องskill poker
17 กรกฎาคม
เมนเตอร์ก็ได้เตรียมตารางการเทรนนิ่งนักกีฬาสองคนที่ได้ไปมาเก๊า คือ คุณนนท์และคุณเบนซ์ คุณชัชจะเทรนในเรื่องของสภาพร่างกาย อาหาร การออกกำลังกาย การทำสมาธิ ส่วนผมจะดูแลในเรื่องของSkill การเล่นpoker เบื้องต้น การทำความคุ้นเคยกับ poker สร้างสภาพแวดล้อม จากตารางที่เราจัดให้เทรดเดอร์นั้นเป็นตารางการฝึกระยะสั้นๆ เพียงแค่ไม่กี่วันในการเริ่มแข่งซึ่งถือว่าเป็นงานที่ท้าทายมากในการเทรนนิ่ง แต่สิ่งที่เทรดเดอร์เรามีพร้อมอยู่แล้วคือร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่ง จึงทำให้การเทรนนิ่งในระยะสั้นๆนั้นมีประสิทธิ์ภาพมาก สรุปตารางคร่าวๆก่อนวันที่จะเดินทางมีดังนี้คือ 
ตารางนี้จะเริ่มวันที่ 20-23 ก.ค. ก่อนวันที่จะไปแข่ง
09.00 - 11.00 น. ว่ายน้ำ
12.00 -12.30 น. ทานข้าว
13.00 - 17.00 น. เทรด Active
*(ช่วงเวลาที่เทรดเดอร์ เบนซ์ นนท์ เทรดActive เยอะสุดคือช่วง 12.00-18.00 น)
17.00 - 17.30 น. ทานข้าว
18.00 - 23.00 น. เทรนนิ่งPoker
23.00 - 23.30 น. ทานข้าว
23.30 -24.00 น. ทำสมาธิ,ฝึกสร้างจินตนาการ
24.00 น. เข้านอน

วันเสาร์-อาทิตย์ มีตารางฝึกดังนี้
    08.30 - 10.00 น. ว่ายน้ำ
    16.00 - 18.00 น. เรียนPoker ภาคทฤษฎี
19.00 น - 23.30 น. เรียนPoker ภาคปฎิบัติ
23.30 -24.00 น. ทำสมาธิ,ฝึกสร้างจินตนาการ
24.00 น. เข้านอน
ในวัน17 กรกฎาคม พี่ต้านได้มาสอนเทคนิกการเล่นPoker ให้เทรดเดอร์เรื่องความแข็งแรงของหน้าไพ่ ไพ่เปรียบกับเกมการ์ด มีทั้งไพ่ GOD ,Knight,Up Gard ไพ่แต่ละหน้ามีวิธีเล่นที่แตกต่างกัน เช่น ไพ่AA KK ถ้ามีไพ่พวกนี้อยู่ในมือให้ All-In ไปก่อน ส่วนไพ่อื่นๆให้รอดูตามสถาณการณ์พี่ต้านเล่นสภาพแวดล้อมในคาซิโน ช่วงพักเบรคควรทำอะไร ให้คำแนะนำเทรดเดอร์


18 กรกฎาคม
วันนี้เป็นวันเสาร์ผมได้สอนทฤษฎี การเล่นทัวร์นาเมนต์พี่ๆในแคมป์และได้อัดวีดีโอไว้เป็นการสอนเล่นพื้นฐาน หัวข้อ
1.ความสำคัญของโอกาสในทัวร์นาเมนต์
2.การคำนวน Big Blind
3.ความใหญ่ของหน้าไพ่
4.วิธีการเลือกเล่นไพ่
5.Push and Fold
6.SitNGo Wizard
หลังจากที่สอนพื้นฐานไปแล้ว ก็เป็นการเรียนภาคปฎิบัติโดยการเล่น SitnGo เงินปลอม ทัวร์ 45 คน เปิดพร้อมกัน 3โต๊ะ ถ้าโต๊ะไหนหลุดแล้วให้สมัครทัวร์ใหม่ทันที เล่นติดต่อกันเป็นเวลา 5 ชม ซึ่งผมอยากให้เทรดเดอร์ซึมซับธรรมชาติของPoker ให้ได้เร็วที่สุด หลังฝึกเสร็จผมรู้สึกดีใจกับเทรดเดอร์มากๆเพราะเขาสามารถทำผลงานได้ดีเล่นแล้วไม่มีหลุดเลย ทำให้ผมเริ่มสบายใจขึ้นมาพอสมควร เทรดเดอร์เขาเป็นไวมาก ผลออกมา
พี่เบนซ์แข่ง 7 เข้าin the money 4  โต๊ะ 23/45  5/45 4/45 25/45 6/45 9/45 2/45  
พี่นนท์แข่ง 6 เข้า in the money 2 โต๊ะ 11/45  11/45  4/45  13/45  14/45  3/45


                    19 กรกฏาคม
เวลา 16.00 น คุณชัชพาเทรดเดอร์เราไปฝึกนอกสถาณที่ฝึกตามหลักสูตรของ mindgames โดยการให้เทรดเดอร์ไปซื้อกาแฟที่ สตาร์บัค แล้วขอให้พนักงานลดราคากาแฟให้ ซึ่งบทเรียนนี้เป็นการทำลายความรู้สึกกังวลของเทรดเดอร์และยอมรับความเป็นจริงของผลลัพธ์ ก่อนทำกิจกรรมจะมีความรู้สึกกังวลเข้ามา,ความกลัว, กลัวไม่กล้าคุยกับพนักงาน กลัวเขามองว่าเราเป็นโจร….ต่างๆ แต่พอได้ลองขอให้เขาลดแล้วพนักงานก็ปฏิเสธและเป็นการเสนอโปรโมชั่นอื่นๆให้แทน ซึ่งจุดนี้เป็นการยอมรับผลของมัน สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรน่ากลัว ความกังวลตอนแรกก็จะหายไป
เวลา 19.00 น.ก่อนเริ่มฝึกภาคปฎิบัติ ผมให้เทรดเดอร์ฝึกโปรแกรม SitNGo Wizard ซึ่งเป็นโปรแกรมจำลองสถาณการณ์ในโต๊ะโปรกเกอร์ว่าเราควรทำอย่างไรดี จะPushหรือ Fold
โปรแกรมนี้เป็นการวางตรรกะให้ผู้เล่น เล่นแบบปลอดภัยที่สุดและตำแหน่งดีที่สุด ผมให้เทรดเดอร์ใช้โปรแกรมนี้ 100 handให้ได้ 60%up ก่อนที่จะฝึกปฎิบัติในช่วงถัดไป ซึ่งเทรดเดอร์เราก็มีผลงานที่ดีมาก คุณเบนซ์ได้ 85% คุณนนท์ได้ 75% ในครั้งแรก ผมรู้สึกพอใจกับผลงานของพวกเขามากๆ และปล่อยให้เขาฝึกซ้อมตามปกติ ผลออกมาดีมากพอสมควร
พี่เบนซ์แข่ง 2 เข้าin the money 2  โต๊ะ  5/45  7/45   
พี่นนท์แข่ง 5 เข้า in the money 1 โต๊ะ 17/45  13/45  11/45  18/45  7/45


    ส่วนพี่เบนวันนี้พี่ต้านให้ลองเล่น ทัวร์นาเมนต์เงินจริง คนในทัวร์อยู่ที่ 265 คน สุดท้ายพี่เบนซ์จบมาได้ที่ 87 คิดเป็นเปอร์เซนต์อยู่ที่ 33%ของคนทั้งหมด ใช้เวลา 3ฃั่วโมง ระหว่างที่พี่เบนซ์เล่นพี่เขาไม่มีความกังวลใดๆสติหรืออารมณ์ไม่หลุดถือว่าคุมได้ดีมากเลย ตามความรู้สึกของผมคือ พี่เบนซ์ได้ทำผลงานดีแล้วใช้โอกาสที่มีได้คุ้มค่า แต่ถึงจังหวะที่โดนบังคับให้ต้องเล่นถือว่าทำดีที่สุดแล้วในเกมนี้ ผมคิดว่าโอเคถือว่าผ่านเกณฑ์



20 กรกฎาคม
ช่วงเช้าคุณชัชพาเทรดเดอร์ไปว่ายน้ำ 30 นาที ไม่อยากให้ว่ายน้ำนานกว่านี้เพราะว่าจะใช้พลังงานเยอะเกินไป ให้เทรดเดอร์ทานอาหารครบมื้อ ช่วงบ่ายให้เทรดเดอร์เทรดตามปกติช่วง 19.00 น. ฝึกpoker เหมือนเดิม ให้เล่น  SitNGo Wizard ก่อน 100 hand แล้วค่อยให้ฝึกปฎิบัติ คุณเบนซ์ได้ 95% คุณนนท์ได้ 85% ถือว่าทำได้ดีมากๆ วันนี้เป็นวันที่คุณนนท์จะต้องเล่น Poker เงินจริงทัวร์นามเมนต์
ผมสมัครทัวร์นาเมนต์ให้คุณนนท์เป็นประเภทเดี่ยวกับที่คุณเบนซ์เล่น คือ deep stake มีผู้เล่น 362 คน พี่นนท์จบที่ 24 เข้า in the money ได้สำเร็จ ระหว่างที่พี่นนท์เล่นเขาทำตามแผนทุกอย่าง ไม่ค่อยเล่นเสี่ยง เล่นจนมาถึงช่วงที่เข้า in the money ผมก็ปล่อยให้เทรดเดอร์เล่นหน้าไพ่ได้ตามอิสระ ซึ่งผลจบออกมาที่ 24/362 ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ทุกคนยินดีกับพี่นนท์ในรอบนี้ แข่งใช้เวลา 3ชั่วโมงนิดๆ
ผลงานฝึกพี่เบนซ์วันนี้ก็ออกมาทำได้ดี แข่ง 8 เข้า in the money 3  โต๊ะ 11/45 4/45 6/45 11/45  2/45  9/45  16/45  11/45  จบวันนี้ไปได้อย่างสวยงามผมรู้สึกว่าเทรดเดอร์ทั้งสองมีความพร้อมที่จะแข่งเผชิญหน้ากับโต๊ะจริงแล้ว เพียงแต่ขาดประสบการณ์ในโต๊ะจริงแต่ผมคิดว่าพวกเขาจะใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน

21 กรกฎาคม
ช่วงเช้าคุณชัชพาไปว่ายน้ำเหมือนเดิม 30นาที กลับมาทานอาหารแล้วก็เทรดจนถึงช่วงเวลา 19.00 น. การฝึกวันนี้เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเริ่มการฝึกด้วยการให้เล่น SitNGo Wizard ก่อน 100 hand แล้วต่อด้วยการเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ พร้อมกับเล่นโต๊ะ cashgame 3โต๊ะพร้อมกันด้วยใช้เวลาในการฝึก 5ชั่วโมงเหมือนเดิมผลงานออกมาก็เป็นที่พอใจ
ผมวางแผนว่าวันสุดท้าย22 ก.ค. จะไม่ให้เทรดเดอร์ฝึกอะไรเพราะที่ผ่านมาเทรดเดอร์ก็พอเข้าใจในเรื่องทัวร์นาเมนต์และธรรมชาติของ poker การที่เราไม่ติด in the moneyเลยมันก็มีบ้าง ผมพยายามให้เทรดเดอร์เรามองไปในผลลัพธ์ระยะยาวในการเล่น poker การหาโอกาสที่ดี ระยะยาวแล้วผลของเราจะเป็นบวกถ้าเราเล่นแบบเข้าใจธรรมชาติของมัน และทำให้เราไม่เสียพลังในการตัดสินใจเยอะในการแข่งโต๊ะจริง เวลาเราผิดหวังจากการเล่นก็จะฟื้นฟูจิตใจได้เร็วเพราะเราเข้าใจในธรรมชาติของมันแล้ว

22 กรกฎาคม
วันนี้ไม่ได้พาเทรดเดอร์ไปว่ายน้ำเพราะว่าจะเก็บแรงเทรดเดอร์ไว้ก่อนไว้ใช้ในการเดินทาง ช่วงเย็น 19.00 น. ก่อนที่ผมจะให้เทรดเดอร์คุ้นเคยกับชิพจริงไพ่จริง ผมเปิดวีดีโอเกี่ยวกับโป๊กเกอร์ให้ดู 1 วีดีโอชื่อว่า PokerStars We Are Poker Nacho vs Brazil วีดีโอนี้เป็นวีดีโอที่แสดงอารมณ์ของการเล่นโป๊กเกอร์ที่ดีผมให้เทรดเดอร์ซึมซัพบรรยากาศของวีดีโอนี้ 2 รอบโดยห้ามให้เทรดเดอร์คุยกันระหว่างดูและปิดไฟในห้องให้หมด เพื่อโฟกัสแค่วีดีโอเท่านั้น
หลังจากดูวีดีโอเสร็จผมให้เทรดเดอร์จำลองสถาณการณ์การเล่นทัวร์นาเมนต์โต๊ะจริงโดยใช้ชิพจริงและแจกไพ่จริง ผมเป็นคนแจกไพ่ หลังจากจบเกมแรกผมก็ตั้งกติกาว่าให้ใช้เงินจริงในการสมัครเข้าเล่นโต๊ะจริง 100บาท เพื่อให้ความรู้สึกของเทรดเดอร์จริงจังและซีเรียสกว่าเก่า ผลลัพธ์ที่ได้คือ เทรดเดอร์จริงจังกับการเล่นทำให้บรรยากาศดูกดดันเพราะมีตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เทรดเดอร์ก็พูดเหมือนว่า 100บาทนิเงิน payoff เลยนะ ผลสุดท้ายก็ได้ผู้ชนะมาและผมก็บอกว่าไม่ต้องเสียเงินจริงๆเป็นแค่เหตุการณ์จำลองให้เทรดเดอร์จำบทเรียนนี้ไว้ว่าเราพยายามสร้างสถาณการณ์จำลองให้เขาแล้ว เป็นการจบหลักสุตรการเล่น poker แบบเร่งรัด ผมประเมิณว่าคอร์ดนี้ผมพอใจกับมันพอสมควร เพราะคนเราพร้อมใจพร้อม ผมมั่นใจและเชื่อใจในพวกเขา2คน ถึงเราจะฝึกจากที่ไทยมามากแค่ไหนเราก็ยังไม่มีประสบกาณ์จริงจากโต๊ะจริงๆอยู่ดี ซึ่งคอร์ดการฝึกทำได้แค่เรียนรู้พื้นฐานเท่านั้น ส่วนskill การเอาชีวิตรอด ต้องไปหากันเองที่มาเก๊าล้วนๆ ไม่มีใครสอนมาก่อน อยู่ที่การปรับตัวของเทรดเดอร์ล้วนๆ



23 กรกฎาคม
วันนี้เป็นวันเดินทาง ผมตื่นแต่เช้าประมาณตี5ครึ่ง เพื่อมาเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง ผมและเทรดเดอร์มีอาการตื่นเต้นเมื่อต้องบินออกนอกประเทศบรรยากาศรอบๆสนามบินมีแต่ความสนุกและตื่นเต้นคุณชัชได้เจอนักกีฬาฟุตบอลในสนามบินขึ้นเครื่องเวลา11.45 น. เครื่องบินใช้เวลาเดินทาง 3ชั่วโมงถึงเกาะมาเก๊า วันแรกที่มาเก๊าทุกคนตื่นเต้นกับสภาพแวดล้อมรอบข้างมากๆ ตื่นตากับคาซิโน พอถึงที่พักก็เก็บของเรียบร้อย เตรียมตัวเดินทางไปเจอพี่ต้านตอน 6 โมงเย็น
พอเข้าไปเจอพี่ต้านในคาซิโน ก็มีความรู้สึกว่าเกรงๆไม่ค่อยชินกับสถาณที่เท่าไหร่แต่อยู่ไปสักพักก็ปรับตัวได้พอเจอพี่ต้าน ก็ได้งบในการเล่นมา 3000$ พี่ต้านให้สำรองไว้อีก 3000$ พี่ต้านแนะนำให้ไปสำรวจก่อนว่าโต๊ะไหนเล่นง่ายโต๊ะไหนเล่นยาก แต่ช่วงเวลานั้นเวลาประมาณ1ทุ่มแล้ว เราเลยเลือกไปสำรวจที่ เวเนเซียมแทน ที่นี้โต๊ะตำสุดอยู่ที่ 25/50และอยู่ใกล้
วันแรงของcashgame ซึ่งทุกคนก็ไม่มีประสบการณ์ในการเล่นโต๊ะจริง ผมจึงวางแผนว่าให้ทุกคนลองเล่นแบบ save ไว้ก่อนรอไพ่ดีๆค่อย call ตามให้เทรดเดอร์เล่นคนละ 2ชั่วโมง ผลัดกันเล่นเพราะมีเงิน buy in น้อย บรรยากาศในโต๊ะคนส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เล่นค่อนข้างไม่บ่อยแต่เวลาเรสจะหนักมาก  มีบางคนที่เข้ามาเล่นแบบไม่จริงจังเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ออกไปตัวเปล่า วันแรกเทรดเดอร์เราก็ทำตามแผนที่วางไว้ได้ดีมากๆถึงแม้จะเหนื่อยล้าจากการเดินทางแต่ก็ยังคุมสติและอารมณ์ได้อยู่ วันนี้ขาดทุนไป 1500$ ทำให้เราต้องกลับมาวางแผนใหม่ในวันพรุ่งนี้ว่าเราควรเล่นเทคนิคแบบไหนดี  วันนี้เทรดเดอร์เราได้กินขนมปัง 2 ชิ้น นมถั่วเหลือง1กล่องรวมทั้งเมนเตอร์ด้วย
24 กรกฏาคม
วันนี้เราประชุมกันว่าจะลองไปเล่นโป๊กเกอร์ที่ wnyy ก่อนไปก็ให้เทรดเดอร์เราฝึกทำสมธิ 30 นาทีก่อนไปคาซิโน เราได้ศึกษาหาเส้นทางอย่างดีแล้วจึงออกเดินทาง วันนี้เราประชุมแผนการเล่นไว้ว่าจะมีแค่ผมกับคุณชัชที่เล่นโป๊เกอร์ให้คุณชัชเล่นแบบ save ตามแผนรอไพ่ดีแต่ให้นั่งนานๆ ส่วนผมจะเล่นแบบเสี่ยงลุ้นไพ่ตามแต่โอกาส คุณชัชได้คิวเข้าโต๊ะก่อนแล้วผมก็ตามไปผมกับคุณชัชได้นั่งโต๊ะเดี่ยวกัน ก่อนที่เราจะนั่งผมได้สำรวจผู้เล่นในโต๊ะพอสมควรว่าเขาเล่นแบบไหน พอเข้าไปเล่นโต๊ะจริงก็เริ่มสัมผัสได้ว่า เขาเล่นแบบระมัดระวังพอสมควรค่อยๆ คอลตามๆกัน ชอบขอดู ฟล็อบ เวลาเราเรสหนักๆก็จะหมอบให้ ส่วนใหญ่ก็จะเล่นแค่ 1-2คู่ ไม่ค่อยมีใครกล้าเล่นมาก ช่วงที่ผมเล่น ผมเลือกไพ่เล่นคือ 77 33 AJ TT ช่วง1ชั่วโมงแรก ไพ่ผมเข้ามือจึงทำให้พอร์ตผมมีเงินเยอะพอสมควร ประมาณ 2800$ มากสุด หลังจากนั้นผมเริ่มคอล ตามมากขึ้น เข้าดูฟล็อบบ่อยขึ้น แต่ก็ยังเล่นแบบ save อยู่ จนมาถึงชั่วโมงที่2 ผมถือไพ่ AJ แล้วมี1คนที่เล่นกับผม เป็นป้าอายุราวๆ 45ปี เขาเล่นแบบเรสหนักเข้ามา ผมเองก็อยากลุ้นฟล็อบผมเลย คอลตามไป300 พอฟล็อบเปิด ก็ออกเป็น 95K ป้าก็เรสมาอีก400 ผมก็คอลตาม บนโต๊ะเป็น  95KQ ซึ่งในใจผมก็สามารถลุ้นสเตสได้ แล้วป้าก็เรสมาอีก 900 ในใจผมเต้นแรงมากเพราะผมก็ลุ้นให้ใบสุดท้ายออกเลข10 ผมก็กลั้นใจ คอลตามไปแต่สุดท้ายไพ่ออก 95KQ9 ทำให้ผมเสียไปในที่สุด ป้าเขามีไพ่ QQ อยู่ในมือ จากข้อผิดพลาดทำให้ผมเรียนรู้ว่าผมเลือกคนเล่นผิดคน ลึกๆผมอยากรู้ว่าป้าเขาขี้บรัฟหรือเปล่่าและผมก็พยายามลุ้นจนเกินไป จึงทำให้ผลออกมา -2000 เงินหมดหน้าตักนั้นเอง ส่วนคุณชัชก็ยังสามารถนั่งเล่นบนโต๊ะได้ตามปกติตามแผน ผลสุดท้ายคุณชัชบวกมาได้ 300 วันนี้เทรดเดอร์เราได้กินขนมปัง 2 ชิ้น นมถั่วเหลือง1กล่อง ต่อคน


หลังจากที่ผมลุกจากโต๊ะผมก็พยายามดูคนอื่นโต๊ะข้างๆว่าเขาเล่นกันแบบไหน ป้าที่กินเงินผมไปได้ก็ลุกออกโต๊ะแล้วคนที่ผมโฟกัสมีอยู่ 4 คน ฝรั่งมัดผม ฝรั่งใส่หูฟัง ฝรั่งเสื้อแขนยาว และคนแก่จีน ผมดูทั้ง4คนนั้นหลายชั่วโมงจนเริ่มเห็นการวนลูบเดินๆ ว่าฝรั่งมัดผมยิ่งนั่งนานชิพบนโต๊ะก็ยิ่งมากขึ้นๆ ผมยืนดูเขาเล่น 5-6 ชั่วโมงจะเห็นจำนวนชิพเขาก็ลดลงแล้วช่วงนึงชิพเขาก็ดับเบิลขึ้นมา ท่านั่งเขานั่งหลังตรงตลอดหน้าเขาจะนิ่งตลอดแตกต่างจากคนในโต๊ะอื่นๆ ที่เล่นมือถือบ้าง นั่งมองเมอๆบ้าง นั่งลุ้นไพ่บ้าง และอีกหนึ่งคนที่ผมโฟกัสคือลุงแก่จีนคนนี้ผมเห็นเขามาตั้งแต่เช้าเขามีชิพเยอะมากแต่ระหว่างวันชิพเขาจะลดลงเรื่อยๆ จนมาถึงช่วงเย็นๆชิพเขาก็ไม่ค่อยเหลือเลย เขาจะเล่นแบบลุ้นไพ่ในมือมากๆเวลาได้ไพ่มาก็ก้มแล้วก้มอีกแต่การพูดคุยเขาก็เฮฮากับคนในโต๊ะมียิ้มมีหัวเราะบ้าง แต่ผลงานของเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หรือผมอาจจะดูรอบสั้นไป  วันนี้เทรดเดอร์เราได้กินขนมปัง 2 ชิ้น นมถั่วเหลือง1กล่อง ต่อคน


25 กรกฎาคม
วันนี้พี่ต้านนัดให้พวกเราเล่นทัวร์นาเมนต์ 1 ทัวร์ซึ่งเป็นการเล่นทัวร์นาเมนต์ครั้งแรกของพวกเรา Qualifier to APPT Manila Satellite ค่าสมัคร 500$ ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเป็นทัวร์แบบไหนเทรดเดอร์ก็ตื่นเต้น พี่เบนซ์ดูตื่นเต้นกว่าพี่นนท์เล็กน้อย พี่นนท์ดูภายนอกแล้วไม่ค่อยตื่นเต้นกับทัวร์เท่าไหร่ ก่อนออกจากห้องพักเราก็ทำสมาธิกัน 30 นาทีเมื่อพร้อมแล้วจึงเดินทางออกไปคาซิโน เมื่อถึงก็นั่งพักกันประมาณ 2 ชั่วโมงแต่ละคนก็พยายามทำให้ตัวเองกังวลน้อยลงฝึกหายใจรวมทั้งเมนเตอร์ก็พยายามควบคุมลมหายใจไม่ให้ตื่นเต้นจนเกินไป พอทุกคนได้สมัครทัวร์เรียนร้อยแล้ว ทัวร์นี้เป็นขนาดเล็กคนเล่นทั้งหมด 20คนบลายเริ่มแรก 25/50 เงินเริ่มต้น 1500 ซึ่งถือว่าเร็วมากผมกับพี่เบนซ์ได้นั่งโต๊ะเดี่ยวกันผมก็เล่นวิธีปกติ โดยการเลือกไพ่เล่นแล้วรอจังหวะ ผมแทบไม่ได้คอลเข้าไปดูฟล็อบเลย พยายามเก็บข้อมูลไปก่อน จนBB เริ่มเหลือน้อยเหลือ 10BB ผมเริ่มหาตำแหน่งที่ดีที่สุดในการ all-in ผมเลือกไพ่ที่อจะสู้ได้คือ K8 ผมเล่นในตำแหน่งข้างD เพื่อจะขโมยบลายแต่ D ก็คอลตามไพ่กลางออก JT857 เขาถือไพ่ JT ผมเลยได้ออกจากทัวร์เป็นคนที่ 14/20 ประสบการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นทัวร์ที่ไวมากๆผมประเมิณตัวเองว่าผมก็เล่นเหมาะสมแล้วแต่ต้องปรับหน้าไพ่ที่เล่นอีกเล็กน้อยน่าจะเหมาะสมกับทัวร์นี้ หลังจากที่ทุกคนเล่นเสร็จก็มีท่าทางที่ว่าเสียใจที่ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เขาก็เลือกไพ่สุดท้ายได้ดีที่สุดแล้ว พี่เบนซ์เลือกไพ่ที่ดีเล่นแต่แพ้ พี่นนท์โดนบังคับAll คุณชัชเลือกไพ่ที่ดี สุดท้ายเราออกมาพร้อมกัน 13/20 12/20 11/20

หลังจากออกจากทัวร์แล้วก็มาดูโต๊ะไฟนอล 14คนสุดท้ายจาก 275คนก็ได้เห็นสไตล์การเล่นทัวร์นาเมนต์ของคนจริงๆ ว่าเขาเลือกไพ่อะไรในการเล่น ส่วนใหญ่คนที่ได้ไพ่สูงและแข็งแกร่งแต่ชิพน้อยจะเลือก all-in เข้ามาเลยเพื่อหวังดับเบิลชิพของตัวเองบางคนก็รอดได้ดับเบิลชิพบางคนก็ไม่รอดแต่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะเลือกไพ่ที่แข็งแรงในการเล่น ผมได้ซึมซับการวางตัวของนักโป๊กเกอร์การจ้องตา การดูท่าทางประกอบคนที่ลุ้นและเก็บอาการไม่อยู่ตาจะกรอกมองไปๆมาๆขาจะสั่น มือจะสั่น ตาจะกระพริบๆ บางคนผมก็ดูไม่ออกเพราะเขานั่งนิ่งจริงๆแต่จนไม่รู้ว่าไพ่เขาดีหรือไม่ดี ผมก็ค่อยๆเรียนรู้การดูคน เทรดเดอร์เราก็รู้สึกสนุกกับการได้เชียร์โป๊กเกอร์โต๊ะไฟนอลระหว่างที่ดูการคุยกันเชียร์คนไหน พูดกันเองว่าคนนี้บรัฟคนนี้มีของคนนี้น่าจะเก่งดูๆข้อมูลแต่ละคนแล้วก็เอามาคุยกัน จนสุดท้ายคนที่ได้แชมป์เป็นhand ที่เขามีคู่แต่อีกคนกำลังบรัฟสุดท้านแชมป์ก็กล้าที่จะเล่นตามลุ้นจนเปิดไพ่ครบ5ใบจนได้เป็นผู้ชนะ


26 กรกฎาคม
วันนี้พี่ต้านนัดพวกเรา11โมงเช้าที่ pokerstar พวกเราก็เตรียมตัวเรียบร้อยเทรดเดอร์ก็ทำสมาธิกันเอง วันนี้พี่ต้านให้โจทย์คือเล่น cashgame ให้เงินเป็นบวกในเวลาที่นาน พี่ต้านให้เราเล่นตั้งแต่บ่าย1 ถึง2ทุ่ม หากเราคิดว่าชิพเราเหลือน้อยแล้วจนไม่สามารถเบิลพอร์ตได้ก็สามารถหยุดเล่นได้หรือใครที่มีชิพเยอะแล้วสามารถ sit out ออกมารอเวลาได้ เป็นการฝึกบริหารหน้าตักและskillทั้งหมดในเวลาที่ได้เรียนรู้มา 3วัน ถ้าคนไหนทำได้พี่ต้านก็จะสมัครทัวร์นาเมนต์ให้ในวันถัดไป พวกเราได้เงินมาคนละ 3000$ ในการนั่งเล่น ก่อนเล่นผมรู้สึกกลัวๆเพราะผมเคยหมดเงินกับการเล่น cashgame มาแล้วผมเลยไม่กล้าที่จะออกลายมากเท่าไหร่ แต่ในใจก็ละลึกไว้เสมอว่าต้องรอมี nut ถึงจะเล่น

พอเข้านั่งโต๊ะบรรยากาศเปลี่ยนไปทันทีความรู้สึกผมเหมือนว่าทำไมมันเล่นยากๆไพ่ในมือผมมีแต่ T8 87 JT A8 42 53 Qj 98 K8 42 T2 AT ผมได้ไพ่ประมาณนี้ ซึ่งไพ่ผมเล่นคอลตามคือ AT,QJ แต่ผมก็หมอบไปเพราะเขาเรสมาหนักพอสมควรตอนนั้นผ่านไป2ชม ทำให้พอร์ตผมเหลือน้อยมากจาก 3000 เหลือ2300 ทำให้ใจผมเริ่มไม่ค่อยดีสักพักผมก็ได้ไพ่ AJเข้ามือผมก็กะจะคอลเล่นตาม พอคอลตามฟล็อบออก QK8 ฝั่งนุ้นก็เรสมาอีกผมก็คอลตามกะจะลุ้นT เพราะถ้าได้ผมก็จะมีเสตส ผมก็คอลตาม QK87 ฝั่งนู้นก็all-inมา ผมก็คอลตามเพราะเห็นเขาเงินหมดแล้วก็อยากจะเก็บให้หมดไพ่ก็ออก QK875 เขาถือไพ่ Q2 ทำให้ผมเหลือเงิน 1100 ทันที ผมเลยตัดสินใจโดยการออกจากโต๊ะเพราะกลัวว่าจะเสียเงินไปทั้งหมดผมเลือกที่จะป้องกันเงินต้นไว้ก่อนดีกว่า ผมคิดว่าถ้าอยู่ต่อไปผมอาจจะหลุดได้ ก็ปล่อยให้พี่นนท์กับพี่เบนซ์เล่นต่อไป หลังจากนั้นพี่ต้านก็มาเช็คว่าใครเป็นอย่างไรบ้างผมก็เอาชิพคืนพี่ต้านพี่นนท์ก็ออกมาด้วยบอกว่าขอพักแล้วพี่นนท์พอร์ตบวกเป็น 3300 พี่นนท์เล่าให้ฟังว่าพอร์ตเขาสวิงขึ้นลงเยอะมากๆจิตใจเขาอาจจะคุมไม่ค่อยได้ประกอบกับเวลาเหลืออีกแค่2ชั่วโมง เลยขอพักก่อนดีกว่าหลังจากพี่นนท์พักพี่เบนซ์ก็ตามออกมาพอร์ตบวกเป็น 3590 พี่เบนซ์ออกมามีอาการล้าเล็กน้อยแต่เขาก็ทำดีที่สุดแล้วเขาบอกว่าเรียนรู้ได้เยอะมากพอสมควรเลยเริ่มรู้สึกว่าคนไหนชอบเล่นเรสใส่ คนไหนชอบบรัฟ คนไหนมีของจริง ก็ฟังประสบการณ์จากพี่เบนซ์และพี่นนท์เล่าผมก็มาแชร์ประสบการณ์กันตอนสุดท้ายหลังจากคุณชัชออกมา พอร์ตคุณชัชเหลือ0 พอถึงโรงแรมก็แยกย้ายกันกลับห้องแล้วก็มานั่งคุยกันเกี่ยวกับประสบการณ์ของวันนี้ที่ได้รับ วันนี้เทรดเดอร์ได้กินข้าวมือถือ 1อัน น้ำถั่วเหลือง1กล่อง กล้วย1ลูก ต่อคน


27 กรกฎาคม
วันนี้พี่ต้านให้พวกเราเลือกว่าจะพักหรือว่าจะไปเล่นโป๊กเกอร์ cashgame ต่อ เพราะผลงานเราโดยรวมถือว่าแย่มากตอนนี้ nav พอร์ตโป๊กเกอร์ลดเหลือแค่ 45%เรามีทางเลือก2ทางคือเล่นต่อหรือไม่เล่น ถ้าเราเลืเอกเล่นต่อพอร์ตเราอาจจะลดมากกว่านี้ได้แต่ร่างกายก็ต้องรับภาระมากขึ้นถ้าเราได้navเราก็จะติดลบเล็กน้อยอย่างน้อยๆก็พิ่มเป็น 60% 70%ทำให้ผลงานเราแลดูไม่ค่อยน่าเกลียด แต่ถ้าเราเล่นเสียสภาพจิตใจเทรดเดอร์อาจจะแย่ตามไปด้วยจนอาจกระทบต่อการแข่งรอบถัดไปและทำให้ผลงาน nav แน่ถลำลึกลงไปอีก

ตามความเห็นของเมนเตอร์คือวันนี้เราอาจจะให้เทรดเดอร์เรารีแล็คบ้างเพราะเทรดเดอร์และเมนเตอร์เราอาจมีอาการเครียดสะสมเพราะตั้งแต่วันเดินทางและวันฝึกซ้อมเราไม่ค่อยได้พักผ่อนเลยและเรายังต้องทำผลงานในรูปแบบที่ต้องใช้แรงกดดัน และประกอบว่าวันที่ 28เราต้องแข่งทัวร์นาเมนต์อีกเราอยากให้ร่างกายเทรดเดอร์พร้อมและพักสมองคล้ายความเครียดลงแต่ต้องยอมรับว่าเทรดเดอร์เรารับมือกับความกดดันได้ดีพอสมควร เราวัดจากการคุมสติหรือการพูดจาเทรดเดอร์ไม่ค่อยมีอะไรที่หลุดๆหรือหงุดหงิด เทรดเดอร์เรายิ่มแย้มแจ่งใส่ วันนี้เมนเตอร์และเทรดเดอร์จึงตัดสินใจพักผ่อนและเดินทางท่องเที่ย;รอบๆมาเก๊าและพยายามกลับก่อน 6โมงเย็นเพื่อนอนพักผ่อน
วันนี้ก่อนนอนเทรดเดอร์เขานอนแต่หัวค่ำนอนพักผ่อนกัน 8-9 ชั่วโมงถือว่าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และได้อาหาร ข้าวมือถือ 1 กล้วย1 น้ำถั่วเหลือง1 และเทรดเดอร์ได้งบโบนัสเพิ่มจึงได้ซื้ออาหารกินเสริม

28  กรกฎาคม
วันนี้เป็นวันที่เทรดเดอร์จะต้องแข่งทัวร์นาเมนต์พี่ต้านนัดเทรดเดอร์เวลา 5โมงเย็นกำชับให้เทรดเดอร์พักผ่อนเยอะๆ ช่วงนี้อารมณ์เทรดเดอร์ไม่ค่อยมีสีหน้าหรือแววตาความกังวลออกมาให้เห็นมากเท่าไหร่ แต่คนที่กังวลกับเป็นฝั่งของเมนเตอร์เองที่ต้องลุ้นแทนว่าเทรดเดอร์จะสามารถเข้ารอบลึกได้หรือเปล่าถึงเมนเตอร์จะรู้วิธีรีแล็กแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เราก็ทำได้ดีที่สุดแล้ว แนะนำการเล่นส่วนที่เหลือก็อยู่ที่ตัวเทรดเดอร์เองล้วนๆว่าจะใช้ประสบการณ์ที่เรียนรู้มายังไง
5โมงเย็นถึงที่แข่งทัวร์นาเมนต์ พี่ต้านก็สมัครเข้าทัวร์ด้วยเหมือนกันเทรดเดอร์เราพี่นนท์ไม่ค่อยมีความตื่นเต้นกับการแข่งเท่าไหร่ พี่เบนซ์จะเข้าห้องน้ำเพื่อรีแล็กก่อนแข่งโดยการวอร์มร่างกายต่อยอากาศในห้องน้ำให้ร่างกายอบอุ่นทำให้ความกังวลของเขาลดลง ผมได้พูดคุยกับเทรดเดอร์บ้างว่าให้เขาทำเต็มที่อย่าหลุดแผน อย่าลืมที่เทรนนิ่งกันมา ถึงแม้จะไม่ติด In the money แต่เราก็ทำเต็มที่แล้วบางทีเราอาจจะไม่ติดแต่ระยะยาวแล้วเราเข้ารอบลึกได้แน่นอน แต่ก็ต้องเข้าใจว่านี้เป็นการวัดผลระยะสั้น แต่ก็อย่าซีเรียสจนเกินไป ใช้โอกาสให้คุ้มที่สุด หาประสบการณ์ให้เยอะที่สุดเพราะคนที่จะถ่ายทอดต่อไปไม่ใช่เมนเตอร์แต่เป็นตัวเทรดเดอร์เอง ผลออกมาเป็นอย่างไร มาถึงจุดนี้แล้วเมนเตอร์ภูมิใจและมั่นใจในตัวพวกเขา

ระหว่างแข่งพี่นนท์ไม่มีอาการเบื่อหรือหงุดหงิดในทัวร์เลยพี่ๆทั้งสองคุมอารมณ์และสติได้ดีมาก เล่นจังหวะที่ควรเล่น รอจังหวะที่ควรรอไม่มีอาการหลุดออกมาให้เห็น มีการคอลตามดูฟล็อบบ้างแต่ก็ไม่หลุดแผน พี่เบนซ์ใส่หูฟังช่วงแรกๆของทัวร์ทำให้มีสมาธิในการนั่งนานสิ่งรอบข้างไม่สามารถกระทบอะไรต่อจิตใจเขาได้ จนมาถึงช่วงกลางเกมพี่นนท์จำเป็นต้องการชิพเพื่อเบิลพอร์ต พี่นนท์มีอาการตื่นเต้นเล็กน้อยแต่เขาก็บอกว่าจะทำให้ดีที่สุดผลเป็นอย่างไรก็รับมันได้ สุดท้ายพี่นนท์จบด้วยไพ่ AQ ออกมาคนที่ 40/78 นั่งไป2ชั่วโมง18นาที หลังจากออกมาพี่นนท์รู้สึกว่าเสียดายมากๆรู้สึกเฟลที่สอบไม่ผ่าน รู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดี ซึ่งช่วงนี้เมนเตอร์ยังไม่ได้พูดคุยอะไรเพียงแต่พูดว่าทำดีที่สุดแล้ว เราภูมิใจในตัวเขามาก

ส่วนพี่ต้านเหมือนพี่ต้านจะเล่นทัวร์นามเนนต์มาเยอะแล้วรูปแบบการแสดงอาการในโต๊ะจะดูเป็นธรรมชาติมากทั้งการเปิดไพ่การเช็ค หรือนั่งเฉยๆระหว่างรอไพ่ช่วงที่พี่ต้านเล่นเวลาเขาแจกไพ่พี่ต้านจะเปิดไพ่ใบแรกดูก่อนพี่ต้านไม่รอให้ไพ่แจก2ใบแล้วค่อยดู อาจเป็นเพาะว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลา ระหว่างเล่นพี่ต้านก็มีการคอลดูฟล็อบบ้าง บางครั้งเขาเรสมาเยอะ พี่ต้านก็จะส่ายหัวเบาๆก่อนแล้วค่อยหมอบ สุดท้ายเมื่อหน้าตักพี่ต้านเหลือน้อยจึงเหมือนโดนบังคับให้เล่นพี่ต้านจึงบรัฟด้วยไพ่ AT แต่อีกฝั่งก็ถือไพ่ที่ดีกว่าจึงออกมาได้ที่37/78 ใช้เวลา3ชั้วโมง

พี่เบนซ์ระหว่างแข่งไม่มีทีท่าว่าจะเสียสมาธิเลยพี่เบนซ์คุมสติได้มดีมากต้องยอมรับเลยพี่เบนซ์เลือกเล่นแต่ไพ่ที่แข็งแรงเท่านั้น มีการคอลตามบ้างเมื่อไม่ติดอะไรก็หมอบ แต่ถ้าติดก็คอลตามบ้างเวลาพี่เบนซ์ถึงจังหวะ all-in ก็จะเล่นเพื่อเบิลชิพ พอเข้ารอบลึกใกล้ ITM พี่เบนซ์ก็มีอาการตื่นเต้นออกมาบ้างแต่ก็ถือว่าคุมสติได้ดีการเล่นของพี่เบนซ์ไม่ค่อยหลุดเท่าไหร่ คนในโต๊ะเริ่มเล่นกันหนักขึ้นเพราะต้องหนีตาย ช่วงจังหวะที่โต๊ะเล่นช้าพี่เบนซ์ก็จะช้าตาม ช่วงที่โต๊ะเล่นชิงจังหวะเร็วพี่เบนซ์ก็หลบได้ดี จนมาถึงรอบ ITM สีหน้าพี่เบนซ์ดูผ่อนคลายมากขึ้น แต่สีหน้าผมลุ้นมากขึ้นผมเชียร์ตั้งแต่เข้ารอบ 20/70ผมบอกคุณชัชตั้งแต่ช่วง 40/70คนว่าคุณเบนซ์ดูจากทรงแล้วน่าจะเข้ารอบได้ลึก แต่แล้วก็เป็นจริง ช่วงที่พี่เบนซ์เบรคก็ให้กินขนมปังและให้พี่เบนซ์เข้าห้องน้ำไปวอร์มร่างกาย ต่อยอากาศ ซึ่งเป็นผลดีต่อตัวเขามาก สุดท้ายก็ออกมาได้คนที่ 6/70 เล่นด้วยไพ่แข็งแรง AK(คนที่ชนะพี่เบนซ์ถิอไพ่88 แต่สีหน้าเขาเวลาพี่เบนซ์โชว์ไพ่เขาทำหน้าหนักใจมากพอสมควร) ผมถือว่าเขาทำได้ดีมาก พี่เบนซ์กับพี่นนม์ทำตามแผนเหมือนกันหมด ถ้าผมให้คะแนนผมให้ผ่านทั้ง2คน 

สรุป การเรียนรู้เรื่องโปกเกอร์เทรดเดอร์เราเรียนรู้ได้ไว ปรับตัวเข้ากับโต๊ะจริงได้ดีมาก การจำกัดอาหารมีส่วนอย่างมากในการเรียนรู้พลังงานเขาถูกใช้ไปกับกิจกรรมที่จำเป็น และ จากที่ไปแข่งมา Pokerในเน็ท กับโต๊ะจริงมันต่างกันมาก ทั้งจำนวนสำรับไพ่ที่แจกหน้าไพ่ และจำนวนมือที่ได้เล่น โต๊ะจริงจำเป็นต้องใช้ทักษะทางด้านอื่นๆมากกว่าหลายอย่าง ซึ่งการฝึกPokerในเน็ท ก่อนไปแข่งเป็นการทำให้คุ้นเคยกับpoker กฏกติกาเฉยๆสิ่งที่จำเป็นที่สุดคือการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงบนโต๊ะเท่านั้น มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เป็นประสบการณ์ที่มีแต่ตนเองเท่านั้นที่สัมผัสได้  


วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

หาข้อเสียของตัวเอง


            การบ้าน live Mudley Channel (Energy Management 2) https://www.youtube.com/watch?v=ol2NWJfliVE  12 ก.ย. 2015
เราต้องคุยกับตัวเองอย่างจริงจังเพื่อหาข้อเสียของตัวเอง สิ่งที่ทำให้จิตใจเรารู้สึกแย่และอยากพัฒนามันมากที่สุดผมได้ใช้เวลานั่งคุยกับตัวเองอีกครั้งเกี่ยวกับตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นเมื่อ2ปีที่แล้วผมคงจะพูดกับตัวเองว่า เราก็ดีอยู่แล้วนิสัยก็ดี ไม่ขี้เกียจ เราขยันเจอสิ่งที่รักแล้ว หาตัวเองเจอ สนุกกับชีวิตในแบบที่เราภูมิใจ แต่ตอนนี้กลับมีบางสิ่งที่ทำให้ผมต้องหันกลับมาเจอข้อเสียของตัวเองอีกครั้ง

             เกม League of Legends ทำให้ผมได้เห็นข้อเสียของตัวเองเยอะขึ้น ทำให้ผมตระหนักว่าเราก็ยังมีข้อเสียในบางเรื่องเหมือนกันนั้นก็คือ “การควบคุมอารมณ์”ผมรู้สึกว่าเวลาเล่นเกมแพ้แล้วผมจะรู้สึกเซ็งและบ่นกับทีมว่าทำไมเล่นไม่ดี จุดเริ่มต้นของการเล่นเกมของผมคือ ผมมีแฟนที่เล่นเกมเก่งเขาพยายามเรียนรู้โลกของผมว่าผมทำงานอะไร กำลังทำอะไรอยู่ ผมชอบทำอะไร ผมก็เลยอยากรู้โลกของเขาบ้าง เขาเล่นเกมแนวMoba ผมก็เลยอยากลองฝึกเล่น (ตอน ม.4-ม.6 ผมก็ผ่านการเล่นเกมDota มากก่อน) ซึ่งต้องบอกเลยว่าตอนนี้เวลาในการฝึกเล่นของผมน้อยนิดและไม่ค่อยต่อเนื่องและผมก็รู้สึกว่าการเล่นเกมกับแฟนก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไรถ้าผมเชื่อฟังเขา 555+

              จุดประสงค์เป้าหมายการเล่นเกมของผมก็คือ ผมจะต้องเล่นเกมเก่งพอที่จะเล่นคู่กับเขาได้และอยากให้แฟนชื่นชมและภูมิใจในตัวของผมนั้นคือจุดประสงค์หลักในการเล่นเกม ซึ่งผมเห็นตัวเองเลยตอนที่ฝึกเล่นเกมแรกๆผมนั้นศึกษารูปแบบเกม ตัวละคร ตำแหน่ง skill และถามผู้ที่เล่นเกมมาก่อนแน่นอนผมต้องใช้เวลาศึกษานานพอสมควรมีคนสอนผมเล่น และต้องขอบคุณแฟนที่แนะนำการเล่น การออกของต่างๆ ซึ่งผมรู้สึกว่าตัวเองเรียนรู้ได้ไวและเริ่มที่จะเล่นชนะได้บ้างมันก็ทำให้ผมรู้สึกสนุกในการเล่นเกมมากขึ้นและถ้าผมเล่นเกมกับแฟนและชนะมันจะมีความสุข แต่ถ้าตอนไหนที่แพ้ก็จะรู้สึกเฟลๆฮ่าๆๆ

                ข้อเสียที่ผมเห็นคือ เมื่อผมเรียนรู้เกมมากขึ้นอ่านบทความเกี่ยวกับเกมมากขึ้น ดูคนเก่งๆใน Youtube มากขึ้นและ ติดตามโค้ชเกมและนักกีฬามันทำให้ผมมั่นใจในการเล่นของตัวเองมากๆเวลาแฟนผมแนะนำการเล่นหรือการออกของ ผมเริ่มไม่ค่อยเชื่อแล้วและเริ่มเถียงซะด้วยซ้ำ บางทีถึงกับพูดให้เสียความรู้สึก ว่าเขาว่าเล่นไม่เก่ง ซึ่งแน่นอนก็ทำให้ทั้งผมและแฟนหงุดหงิดมากขึ้นเวลาเล่นเกมซึ่งมันส่งผลต่อทีมก็ทำให้แพ้แล้วก็อารมณ์เสียกันทั้ง2คนกว่าจะคืนดีกันก็ใช้เวลานาน ซึ่งผมอยากจะเปลี่ยนแปลงจุดนี้ผมไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว สิ่งที่ผมจะเริ่มแก้ไขคือ ผมจะเชื่อฟังคำแนะนำของเขาและคนเก่งๆมากขึ้นอย่างน้อยเขาก็เคยสอนผมเล่นเกมมาก่อน ผมจะไม่ดูถูกเขาให้เกียรเขา ถึงแม้เขาจะเล่นพลาดบ้างก็จะไม่ด่าไม่ว่าเพื่อรักษาบรรยากาศของการเล่นเกมเอาไว้ผมจะกลับไปเป็นคนเดิมเหมือนตอนที่เริ่มฝึก เชื่อฟังคำแนะนำ พอผมเริ่มปรับความคิดใหม่ผมรู้สึกว่าการเล่นเกมมันได้กลับมาแล้วอิอิ


                 มีอีกสิ่งนึงที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสการชนะในเกมได้ผมได้ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างทีมเกม และได้เข้าไปดูแคมป์ทีมเกม  League of Legends จากยูทุปทั้งลีคจากฝั่งเอเชียและยุโรปสิ่งนึงที่ผมได้เห็นเหมือนกันเลยก็คือเวลาเขาเล่นหรือแข่งเขาจะไม่ด่าเพื่อนในทีมเลยเขาตระหนักรู้ว่าเพื่อนเราได้ทำเต็มที่แล้ว จะมีแต่คำชมและให้กำลังใจกัน (เช่นตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=Qpj_t6nnywE&list=PL5F01H-SEvW-zUc_M52EBdeikIMCZhS_p&index=11 ในนาทีที่ 5:56จะเป็นเสียงของนักกีฬาพูดคุยกันในทีม ) จะเห็นได้ว่าเขาพูดแต่ go gogo nicenice ok ok nice !#@$!# และมีอีกหลายวีดีโอที่เขาพูด จากตรงนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าขนาดทีมระดับโลกเขายังไม่ด่าว่าเพื่อนร่วมทีมกันเลย แล้วผลงานเขาก็ก้าวไปได้ไกลมากๆแล้วทำไมเวลาเราเล่นเกมต้องโทษเพื่อนในทีมว่าเล่นไม่เป็น อ่อน และด่าต่างๆนาๆด้วยขนาดโปรเขายังไม่ทำเลย  การเล่นเกมให้มีคุณภาพมันวัดกันที่การคุมอารมณ์ ว่าทีมไหนจะคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีกว่ากันถ้าคุมอารมณ์ไม่ดีก็จะทำให้ทีมเสียเปรียบมากๆ การคุมอารมณ์มันสำคัญพอๆกับทักษะการเล่นเลยทีเดียวเห็นได้จากหลายๆทีมให้ความสำคัญกับตรงนี้ก่อน ก่อนที่จะพัฒนาทางด้านทักษะการเล่นด้วยซ้ำ

                ตรงนี้ผมก็จะนำมาใช้กับตัวเองด้วยก่อนที่ผมจะโทษใครว่าผิด ผมจะมองตัวเองก่อน การพูดว่าตัวเองเล่นไม่ดี มันก็ไม่ใช่เรื่องทีแย่ มันกลับให้เราพัฒนาด้านจิตใจด้วยซ้ำ แสดงว่าเรายังสามารถพัฒนาได้ ซึงไม่ได้ใช้กับเกมอย่างเดี่ยว แต่จะใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองการเล่นเกมทำให้เห็นอารมณ์ตัวเองได้ชัดเจนเลยครับ การคุมอารมณ์ผมว่าเป็นทักษะที่ทำให้เราได้เปรียนคนส่วนมากได้ดี เพราะเราจะเห็นสิ่งที่มันควรจะเป็นมากกว่าสิ่งที่เราอยากให้เป็น มันน่าจะทำให้เรามองเห็นคนอื่นๆได้ชัดเจนว่าเขากำลังมีอารมณ์แบบไหน ดีใจ เสียใจ กลัว ทำให้เราตัดสินใจกับสิ่งที่อยู่ตรงข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ และผมคิดว่ามันจะทำให้ผมพัฒนาจิตใจและคุมสถาณะการณ์ที่แย่ๆได้ดีขึ้น อิอิ

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

การเดินทาง เล่าย้อนหลัง

" the world makes way for the man who know where he is going " -Ralph WaldoEmerson
,philosopher and poet 


      ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าพูดถึงเป้าหมายระยะสั้นของตัวเองเท่าไหร่ จนกว่าผมจะทำมันสำเร็จได้แล้วสักระยะนึง ผมถึงจะกล้าพูดถึงมัน ผมเป็นคนที่เชื่อในเรื่องของกฎแรงดึงดูด หลายๆครั้งในเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจริง ผมใช้แรงดึงดูด ดึงมันเข้ามา ถึงแม้บางเรื่องจะไม่สำเร็จบ้าง แต่การดึงดูดสถาณ์การมันใช้พลังที่เยอะ ผมจะมาเล่าถึงความรู้สึกของการได้รับผลจากมัน หนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมจริงๆอิอิ

6 ก.พ. 2013 ซื้อเสื้อตัวนี้มาหวังว่าจะได้เล่น โป๊กเกอร์เงินจริง


      เสื้อGAP ตัวนี้ผมซื้อมาตอน 6 กุมภาพันธ์ 2013 เพราะการฝึกPoker ของเฮดจ์ฟันด์มันเป็นตัวจุดประกายที่ทำให้ผมอยากเล่น Poker โต๊ะจริงสักครั้งนึงในชีวิต และต้องเป็นโต๊ะจริงของ Pokerstar ด้วยเพราะPokerstar เป็นบริษัทชั้นนำของโลก ตอนที่ผมซื้อเสื้อตัวนี้มาผมคิดไว้แล้วว่า เสื้อตัวนี้จะใช้ใส่ไปเล่นPokerstar ให้ได้ ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน จิตใจลึกๆของผมมันได้กำหนดไว้กับเสือตัวนี้ไว้แล้ว ไม่รู้หละอย่างน้อยในชีวิตต้องไปให้ได้ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

      ย้อนกลับไป สถาณะผมตอนที่ผมซื้อเสื้อตัวนี้มาคือ ผมยังเป็นนักศึกษาปี2 เทอม1 ที่ยังเรียนไม่จบและสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่ไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกับการไปต่างประเทศเท่าไหร่ ผมอยู่ในครอบครัวธรรมดาๆ ผมยังนึกหนทางไม่ได้เลยว่าจะไปต่างประเทศได้อย่างไรแต่ในใจคืออยากอ่ะ การได้ไปนั่งโต๊ะโป๊กเกอร์มันเท่ นักโป๊กเกอร์เก่งๆหลายคนก็เคยนั่งที่จุดๆนั้นมาแล้ว เราอยากไปอยู่ในจุดที่พวกเขาได้นั่งบ้างเท่านั้นเอง และแล้วการเดินทางของผมก็ค่อยๆดำเนินไป โดยเก็บเป้าหมายนี้ไว้ในลึกๆของจิตใจ ผมก็เดินทางตามสิ่งที่หัวใจหลักให้มันนำทางไป การไปนั่งโต๊ะโป๊กเกอร์มันก็ทางผ่านที่อยากจะไป

      หลังจากเวลาผ่านไปผมได้ทำงานที่เฮดจ์ฟันด์ที่นึง จนเขาสามารถส่่งผมไปเรียนรู้ Poker ที่มาเก๊าได้ ซึงมันทำให้ใจผมสั่นมาก ครั้งนึงในชีวิตเราทำไมถึงใกล้ถึงเราไวมาก มันไวกว่าที่คิดจริงๆ เมื่อ 2ปีที่แล้วผมยังเป็นเด็กที่คิดอยากจะไป แต่ไม่มีหนทางแต่ตอนนี้กลับได้ไปถึงมัน แม้มันเป็นเป้าหมายเล็กๆแต่มันเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของเด็กตัวเล็กๆอย่างผม ย้อนมองกลับไปเราก็มาถึงเป้าที่อยากทำก่อนตายแล้ว มันเป็นความรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดี่ยว ต้องขอบคุณหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ขอบคุณความเชื่อของตัวเอง ขอบคุณเจ้าของเงินทุนที่ทำให้ได้รับรู้ถึงประสบการณ์อันมีค่าและทำให้ผมเชือว่าแนวคิดนี้ยังคงใช้ได้ผลต่อไป จินตนาการณ์สร้างภาพที่เราอยากจะอยู่มันสุดยอดจริงๆ อิอิ
ผมก็ได้ไปอยู่บนโต๊ะจริงเมื่อ 19 กรกฎาคม 2015 ^^


ไว้ผมมาเล่าผลงานจากการไปเล่นทีหลังละกันครับ 555+ ได้ประสบกาณ์ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ


วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2558

Long Term Wealth 12/2014 -5/2015 ( พอร์ต ลูกมดสู้ๆแฟนตั้งให้ 555+)


กลับมารีวิวพอร์ตนี้บ้างหลังจากไม่ได้มารีวิวย้อนหลังนานไปหน่อยคงตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของ2014-และครึ่งปีแรกของ2015 แต่พอได้กลับมาดูทำให้รู้ว่า ตั้งแต่ช่วงปีหลัง2014 เราโดนตลาดสอบโมเดลอะไรบ้าง ผมว่าผมก็โดนตลาดสอน(ตบ)เยอะอยู่ต้องบอกว่าเป็นครึงปีที่ต้องก้มหัวกัดฟันตั้งการ์ดให้ Mr.marketทุบเล่นอย่างเดียว 5555+

เริ่มตั้งแต่ช่วง 7/2014 ตลาดแรกที่ต้องเอ่ยถึงคือWTI หรือน้ำมันตลาดน้ำมันมีการปรับตัวลงเรื่อยๆตั้งแต่ 7/2014 แล้วค่อยๆชะลอการปรับตัวลงเมื่อ2/2015 ราคาน้ำมันลดลงตั้งแต่ 105 ถึง 44.54 โดยประมาณลองคิดดูแล้วเกือบลงเกือบ 57% เลยทีเดียว สำหรับผมผมคิดว่านี้คือวิกฤตแรกที่ผมได้รับเต็มๆ 

จากวิกฤตน้ำมันนี้พอร์ตผมได้รับผลกระทบเต็มๆอยู่เหมือนกันตัวEquity Curve ของผมก็ลดลงมาถึง3.35% ตอนนั้นคิดว่าหืมม nav เราติดลบรัวๆ

ในช่วงเวลาเดียวกันค่าเงิน EUก็อ่อนตัวพร้อมกับค่าเงิน USที่แข็งขึ้นมากๆ ในช่วงตั้งแต่ 7/2014 - 3/2015ซึ่งปรับตัวลงเกือบๆ30%เลยทีเดียว ตั้งแต่ 1.4000-1.0505 เลยทีเดียวช่วงนี้player eu หลายคนคงจุคไม่น้อยสำหรับผมนิบอกเลยว่ากระทบต่อ NAVพอร์ตเต็มๆ 5555+เป็นฟิวที่ต้องก้มหัวตั้งรับอย่างแรง ช่วงเวลานี้พอร์ตผม Equity Curveก็ลงตามตลาดไป 3.35%โดยประมาณแต่ยังเป็นช่วงที่พอร์ตผมยังลงไม่เยอะ 


ช่วงเวลานั้นผมถือค่าเงินEUเยอะพอสมควรจึงทำให้พอร์ตผมค่อนข้างมีแนวโน้มคล้ายกับค่าเงินEUมากพอสมควรในช่วงเวลาเดียวกันพอร์ตผมก็ต้องทดสอบกับช่วงค่าเงินRUB แต่มันก็ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อผมเท่าไหร่อาจจะมีผลกระทบนิดๆจากAUที่ผมถืออยู่เพราะมันเกี่ยวกับทรัพยากรของประเทศ(น้ำมัน)
ในขณะเดียวกันค่าเงินที่ค่อนข้างปรับตัวแข็งขึ้นก็จะเป็นพวก USDCAD,USDCHF,GBPJPY ที่ยังมีหน้าปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วง9/2014 จนไปถึงสูงสุดที่เดือน12/2014 ก็ขึ้นอยู่พอสมควร GBPJPY 10% , USDCHF13%,USDCAD16% และในช่วงนี้ S&P500 ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกันประมาณ9%


ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมก็เจอทั้งตลาดน้ำมันที่ปรับตัวลง,ค่าเงินEUอ่อนตัวลงUSแข็งค่าขึ้น,ค่าเงินRUB,ค่าเงินCHFpanic(สั้นๆช่วง 1/2015-2/2015)จากเหตุกาณ์ต่างๆทำให้ผมพบทั้งข้อดีและข้อเสียของพอร์ตตัวเองพอสมควรพอร์ตผมยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะรับวิกฤตแรงๆมากกว่านี้ที่ผ่านมาผมคิดว่าการปรับตัวเคลื่นไหวของราคาที่ผมเจอทดสอบมันอาจจะยังน้อยกว่าสิ่งที่อาจจะเจอครั้งหน้าๆได้ถ้าหากผมผ่านช่วงนี้ไปได้พอร์ตผมอาจจะแข็งแกร่งมากขึ้นพอสมควรเลยทีเดียวและตอนนี้พอร์ตผมNAVยังติดลบอยู่ -2.49%

ปัจจุบัน เท่าที่ผมคำนวนดูพอร์ตผมสามารถทนรับ Drawdownทั้งหมดของพอร์ตได้ 90%แต่ถ้าจะเป็นแบบนั้นค่าเงินที่ผมถืออยู่คงต้องลงทุกตัวเกิน 80%พร้อมๆกันเลยทีเดียว ซึ่งผมคิดไว้ตอนแรกแล้วว่าถ้ามีโอกาสได้เจอตลาดที่ลงพร้อมกัน80% ทุกตลาดผมก็คงต้องยอม Mr.marketแต่โดยดีเลยครับ แต่ถ้าตลาดลงไม่ถึงก็คงกินเงินผมไม่ได้ง่ายๆแน่ แหะๆ นอกจากโบรกที่ผมเทรดจะปิดตัว กรณีนี้คือต้องยอมมอีก555+

สิ่งที่ภูมิใจลึกๆในพอร์ตนี้ในขณะช่วง7/2014-5/2015 ตลาดได้ผันผวนเยอะมากๆแต่พอร์ตผมยังทนอยุ่รับมือได้ไม่ล้างไปก่อนพอร์ตผม Equity Curveลบมากสุด -4.67% ขณะที่บางตลาด -30%โดยประมาณแต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนผมต้องอาจต้องยอมรับการลงของ EquityCurve ของตัวเอง



หลังจากได้รีวิวภาพรวมของพอร์ต6เดือนย้อนหลัง12/2014-5/2015ก็ได้ตัววัดCF ที่ตลาดมอบให้ทำให้รู้ว่าสินค้าไหนของเรา ของขายได้ตลอดหมดมือตลอดหรือสินค้าไหนแทบจะไม่ได้ขายสต็อกค้างไว้เยอะอิอิได้รับเครื่องมือวัดโดยธรรมชาติคงเป็นรางวัลผลพลอยได้ขอความอดทนมั้ง555 แต่ก็ยังแอบเจ็บใจเล็กๆตอนที่ USDCHF Panic ตอนนั้นผมไม่ได้โฟกัสพอร์ต เลยทำให้อดกินCFในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ต้องยอมรับผลตอนนั้นครับไม่ได้ดูจริงๆสำหรับประเมิณพอร์ตตัวเอง ผมค่อนข้างภูมิใจพอสมควร 555+


สามารถติดตามผลการเทรดได้ที่ลิ้งนี้ https://www.myfxbook.com/portfolio/long-term-wealth/783821 
ปล.ไม่รับฝากเทรดใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่เทรดเพื่อทดสอบทฤษฎีบางอย่าง อิอิ