วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2560

โมเดลจำลอง ระบบเศรษฐกิจ จากเกม Ro.exe


โมเดลจำลอง ระบบเศรษฐกิจ จากเกม Ro.exe


หากเราพอที่จะเชื่อมโยง ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆเทียบกันกับในเกม เราก็จะพอมองออกคร่าวๆ แล้วว่าช่วงเศรษฐกิจแบบไหนเราควร ใช้เงินไปทำอะไร ข้อดีของเกมคือ รอบวงจรเศรษฐกิจมันไว ทำให้ผมจินตนาการณ์ได้ง่ายและสนุก ผมเชื่อว่าหากที่ใดๆมีความต้องการการแลกเปลี่ยน,ตลาด,ทุนนิยม ที่แห่งนั้นย่อมมีจุดอ่อนและ ช่องว่างสำหรับชิงความได้เปรียบเสมอ...อยู่ที่ว่าเราจะเจอก่อนหรือหลัง เท่านั้นเอง อุอิ

            ในโลกของเกม ข้อมูลพื้นฐานเพียงแค่เรารู้ แค่ว่าช่วงไหนเงินเกมอ่อนหรือเงินเกมแข็ง เราก็ได้เปรียบแล้วเช่น ถ้าช่วงเงินอ่อน เราจะขายของแรร์ต่างๆออกได้บ่อย ช่วงนี้ราคาทรัพย์สินจะสูง ถ้าช่วงเงินแข็งเราจะขายออกยากและราคาทรัพย์สินจะต่ำ ทริปของผมคือ ถ้าเงินเกมอ่อน ผมจะไปฟาร์มของแรร์ไว้เรื่อยๆ ขายเอ็ม ถ้าเงินเกมแข็งผมจะฟาร์มขยะ และซื้อทรัพย์สิน อัพเกรดอุปกรณ์ตัวละครเพื่อให้ ฟาร์มได้ไวขึ้น และขายเอ็ม  และช่วงนี้เงินในเกมแข็งผมก็จะอัพเกรดตัวละครเก็บของถูกและหาขยะที่ขายง่ายๆออกมาขาย  ผมจะไม่เกร็งราคาเงินเกม แต่ผมจะมีขายเงินเกมทุกช่วงไม่ว่าเงินเกมแข็งหรืออ่อน การตุนเงินเกมไว้เยอะๆเพื่อเกร็งกำไรทำคนหลังหักมาเยอะแล้ว หุหุ แต่ถ้าตุ่นเพื่ออะไรบางอย่างก็อีกเคสนึง.....

            ทริปการเชื่อมโยงข้อมูลของผมคือ ของในเกม:ของในโลกจริง เงินเกม:เงินบาท=ทองในโลกจริง(ตัวกลางซื้อขาย) ไอเทมcash =ทรัพย์สิน  แร่,ขยะ =ค่าแรงขั้นต่ำ ของตีบวกอาวุธ=สิ่งอำนวยความสะดวก,ทรัพย์สิน

จากภาพอุปกรณ์อาวุธก็ทำให้เห็นแล้วว่า มูลค่าของในเกมคร่าวๆประมาณเท่าไหร่ เงินเกมในระบบ มีปริมาณเท่าไหร่ เงินบาทเท่าไหร่ที่จะควบคุมเงินในเกมได้ ซึ่งตอนนี้ผมไม่สามารถ คุมเงินในเกมได้แน่นอน หากเราพอที่จะตีมูลค่าของในตลาด ปริมาณเงินในเกม และมีเงินบาทมากพอ เราก็จะสามารถทำอะไรบางอย่างให้มี effect กับคนในเกมได้อย่างแน่นอน
ซึ่งผมยังมีพาวเวอร์ไม่พอ ผมคงทำได้แค่หาช่องว่างเพื่อเอาค่าขนมเล็กๆน้อยๆ ดึงออกจากระบบไปแค่นั้นเอง 55555+


            ซึ่งตอนนี้ตัวละครของผมก็ผลิตได้ เฉลียชม.ละ 40บาท เหมือนได้ทำ part time ย่อยๆเลย แล้วผมไม่เคยใช้เงินทุนของตัวเองเติมเข้าในระบบนะครับ แต่เคยเอากำไรที่ได้จากขายเงินมาเติมเพื่อเอาของโปรโมชั่นในเกม แล้วเอาของนั้นขายต่ออีกทีจะเห็นว่าถ้ามีทุนหนาๆหน่อยก็จะได้เปรียบหลายทาง ฮ่าๆๆๆ



ภาพอุปการณ์อาวุธ









วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ไตรมาสที่2 พอร์ตเทพ

   
(9ตุลาคม2016)


  มีคำถาม!? ช่วงระหว่างที่ราคาทอง 1370ถึง1256 และค่าเงินปอนด์ผันผวน!? เหล่าทวยเทพเขาทำอย่างไรกับพอร์ตบ้าง เท่าที่ลองได้ไปส่องดูก็เดาได้คร่าวๆว่า เริ่มจาก


Jim Simons พอร์ตวิธีการเทรดเขาก็ยังคงเป็นปริศนาเทรดหุ้นตัวละ 0.5-1% ของพอร์ตต่อไปเหมือนเดิม เข้าออกถี่ๆกับหุ้นหลายๆตัว กระจายหลายๆอุตสาหกรรมพอร์ตสวยมาก
George Soros พอร์ตมีการเปลี่ยนแปลงคือ PUT SPY หนักมากก!! 9.52% และถือหุ้นทองก็หนักด้วย 5.82% แต่สัตส่วนการถือหุ้นทองยังไม่เพิ่มขึ้น และยังมีหุ้นอื่นๆอีกประปราย ถือบอนของหุ้นViavi Solutions Inc 4.53%แหนะ


Stanley Druckenmiller คนนี้ซิเริ่มมีการปรับพอร์ตบ้าง โดยการถือ GLD ลดลงถึง15%!! จากเมื่อปลายปีที่แล้วเขาถือ 30% ของพอร์ต แต่พอร์ตเขาก็ยังคงลงทุนคล้ายๆจากเดิมไม่ต่างไปมาก ยังคงถือหุ้น FB เหมือนเดิมสัตส่วนมากขึ้นด้วย (ทำไปได้ถือหุ้นตัวเดียว17%ของพอร์ต ใจเด็ดจริงๆ*0*)


Ray Dalio คนนี้อย่าไปยุ่งกับเขา ยังคงคอนเซ็ปเดิม ถือ ETF Index VWO ,SPY มีการปรับสัตส่วนบ้างเล็กน้อย แต่ยังคงเทรดETFตัวหลักๆเหมือนเดิม แต่แอบเห็นะถือหุ้นทองคำ 0.56%ของพอร์ต แถมยังบวก 75%อีก 555+ League of Barrick ซินะครับ ถือกันทุกคน -0-


     สรุป คอนเซ็ปของเหล่าทวยเทพแนวโน้มการลงทุนเขาก็เหมือนเดิม ราคาทองเคลื่อนไหวแค่นี้ไม่มีผลต่อการปรับมุมมองของพอร์ตเขาเท่าไหร่เลย แต่เชื่อได้เลยว่าต้องมีการปรับสัตส่วนการลงทุนไปบ้างไม่มากกก็น้อย ผมนิซิติดบนยอดดอยเลย -.-a






วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Road to the Legends


บางครั้งการได้เดินทางพร้อมกับมีความหวัง ก็อาจมีความสุขมากกว่าการไปถึงเป้าหมายจริงๆ ระหว่างเดินทางนี้หละมันสุดยอดมากๆ ถ้าหากเราลองคิดดูดีๆ เราใช้เวลากับการเดินทางมากกว่าการดื่มด่ำเมื่อถึงเป้าหมายซะอีก ฉะนั้นจงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ได้รับให้ดีๆ จงมีความกล้า จริงๆตั้งใจว่าจะเขียน Principle ของตัวเองออกมาเก็บไว้อยู่เหมือนกันนะ นิก็เขียนไปได้ 18%แล้วนิน่า..น่ายินดีๆ =D












วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Defend & Learn

               ถึงเวลาแล้วที่เราจะเริ่มเรียนรู้ อีกรูปแบบใหม่ หลังจากที่ผมและอินเวสเตอร์ได้ร่วมลงทุนในตลาดหุ้นนี้....เป็นเวลา 3ปี ซึ่งเป็นปีแห่งความยากลำบากของตลาดนี้ ตั้งแต่ ปี 10/6/2013 ถึง 9/7/2016 ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทน จากวันแรกที่ผมเริ่มลงทุนถึงปัจจุบันคือ -8.80% แต่ผลงานของผมพอร์ตบวก 3.8% จากเงินทุน (ผมถือเงินสดในพอร์ต 70%)  ซึ่งสำหรับผมคิดว่ามันก็โอเคอยู่ ที่เราสามารถปกป้องเงินทุนก้อนเล็กๆนี้ไว้ได้ ไม่หายไปไหน ขบวนการลงทุนก็เริ่มเสถียรมากขึ้นนิดหน่อยเริ่มมีกำไรให้เอามาbet นิดๆแล้ว......

                   แต่ลึกๆสำหรับผมยังคิดว่าผลตอบแทนกับพลังงานที่โฟกัสไปมันยังใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร ผมจะเริ่มเอาผลกำไรที่ได้ มาเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เริ่มโอเคมากขึ้นแต่ผมก็คงต้องใช้เวลาเรียนรู้ในการbet เพราะหลังจากที่ลองมาได้สักพัก ก็รู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลย ทุกอย่างต้องใช้เวลาใช้การฝึก ผมใช้เวลาเรียนรู้แค่3ปีสู้คนที่อยู่มานาน 30ปีก็เทียบกันไม่ได้

                     ผมไม่รู้หรอกว่าตลาดจะเป็นอย่างไร แต่ความเสี่ยงของผมคือ ถ้าตลาดนี้  - 90%  พอร์ตผมจะผลงานติดลบ -30%ของพอร์ตแน่นอน 555+ อีกความเสี่ยงนึงคือเรื่องของเวลา ว่าตลาดจะให้ผลกำไรมากพอที่จะรองรับ หุ้นตก -90%ทันหรือไม่ ถ้าไม่ทันพอร์ตก็ลบ30% แต่ถ้าทันพอร์ตก็จะลบไม่เกิน 30% ต้องขอบคุณการจัดการเงินที่ดีทำให้พอร์ตผมมีชีวิตอยู่รอดได้มาถึงวันนี้ แม้ผลตอบแทนจะกระจอก ง่อยๆ ก็ตาม ผมยอมรับจากผลงานเลยว่าผมเรียนรู้ช้าจริงๆ ฮ่าๆ  

                       อีกงานนึงที่ผมต้องทำคือต้องคุยกับอินเวสเตอร์จริงจังให้เข้าใจว่าผมกำลังทำอะไรอยู่แนวคิดเป็นอย่างไร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้หลักๆก็ไม่หลุดจากแนวคิดหลักการเดิมที่ตั้งไว้ตอนเริ่มลงทุน อธิบายว่าทำไมพอร์ตมันโตช้าๆ อินเวสโอเคไหมเพราะตกลงไว้ว่าพอร์ตนี้จะเป็นพอร์ตให้ผมได้ฝึกเรียนรู้ 5555+
ภาพนี้เป็นพอร์ตที่ผมจำลองแนวคิดมาใช้ 


อันนี้เป็นพอร์ตของผมเอง


วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ได้แนวคิดใหม่จากท่าน Lord Renaissance Jim Simons


   หลังจากที่ผมกำลังจะพยายาม หาคำตอบ"ไตรมาสนีัเหล่าผู้ใหญ่ในวงการ เขาจัดการพอร์ตอย่างไง?? " ก็ชักจูงให้สะดุดกับพอร์ตของ ท่าน Lord  Renaissance กับพอร์ตที่เห็นคือ มีแต่หุ้นอเมริกา อย่างเดียว100% ก็ทำให้ผมมองด้วยคติตัวเองว่า แม้เขาจะมีหุ้นในพอร์ต 3000 กว่าตัว แต่นั้นมันก็คือตะกร้าใบเดียวกัน?? เขาไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงเหมือนฟันด์เมเนเจอร์อื่นๆ ที่บางคนก็มีทองบ้าง มี ETFต่างประเทศ มีน้ำมัน มีออฟชั่น ในกรอบของผมนะครับ มันเหมือนขัดกับหลักที่ผมเรียนรู้มาว่า การกระจายความเสี่ยงต้องกระจายไปหลายๆสินค้าซิ....

    ทีนี้ผมมาลองมองอีกมุมนึก ก็พบว่าผมโดนกรอบบางอย่างก็คือกรอบของคำว่าดัชนีผมกลับมองว่าดัชนีคือตัวแทนของหุ้นทั้งหมดในตลาดแต่จริงๆแล้วไม่เลย ถ้าดัชนีขึ้นหุ้นบางตัวอาจจะลง หรือถ้าดีชนีลงหุ้นบางตัวอาจจะขึ้น...บางทีหุ้นในตลาดทั้งหมดที่มีมันอาจจะเป็นการเฮดจ์ความเสี่ยงด้วยตัวของมันอยู่แล้ว ??  หรือบางทีถ้า  dowjones index ลง -50% พอร์ตเขาอาจจะไม่เป็นไรด้วยซ้ำมั้ง

    อันนี้ผมยังไม่รู้คำตอบ เป็นสิ่งที่น่าค้นหา ถ้าหากอนาคตมีเงินเหลือๆ ผมอาจจะลองซื้อหุ้นในอเมริกาทั้งหมดในตลาด อย่างละ 1หุ้น เพื่อจำลองพอร์ตท่าน  Lord  Renaissance แนวคิดมันอาจไม่เหมือนกันก็ได้ แต่ผลลัพธ์ก็ไม่น่าจะแตกต่างกันมั้งง บางทีเราอาจจะได้ Index ใหม่ที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นก็ได้ 5555



เครดิต:http://www.nytimes.com/2014/07/08/science/a-billionaire-mathematicians-life-of-ferocious-curiosity.html?_r=0




https://www.flickr.com/photos/mathforamerica/5123424244

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559

พอร์ต Soros,Du

สิ่งที่ได้เห็นพอร์ต โซรอสและ ดักเกลมิลเลอ 
อาจารย์และศิษย์เอก ไตรมาส1 2016

       ไตรมาสที่ 1 ปี2016 จากภาพจะเห็นว่าตัวโซรอสนั้นเขาจะไม่ซื้อทองโดยตรง แต่เขาเลือกที่จะซื้อบริษัทผลิตทอง ABX ในจำนวน 5.82%ของพอร์ต ซึ่งก็ถือว่าเยอะพอสมควร สภาพตลาดตอนนี้เฟตอาจจะขึ้นดอกเบีย โซรอสเขาอาจมีมุมมองอะไรบางอย่างเลยเลือกที่จะถือบริษทนี้มากขึ้น และจะเห็นว่าเขาก็เข้าซื้อ GLD ใหม่ด้วยในสัตส่วน 2.72% เหมือนเริ่มสะสมตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 

       ในส่วนของ duquesne รายนี้ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่มแล้วว่าเขาสะสมทองคำ ด้วยแนวคิดอะไรบางอย่างตั้งแต่ปลายปี 2015แล้ว ในสัตส่วนถือครองประมาณ 31%ของพอร์ต แต่ปัจจุบันได้ลดสัตส่วนการถือลงเหลือแค่ 17%ในไตรมาสที่ 1 

        ความเห็นส่วนตัว จากการกระทำเราจะได้เห็นวิธีการเล่นของอาจารย์และศิษย์ต้องบอกว่าทั้ง2มีมุมมองบางอย่างที่เหมือนกัน แต่เขาเลือกวิธีการAction ที่ต่างกันในรูปแบบของตัวเอง ต่างกันที่จังหวะเวลาและสินค้าที่เลือกเทรดมุมมองเขาอาจจะมองว่าทองเป็นตัวแทนการแลกเปลี่ยนหรืออะไรก็ตาม แต่สิ่งที่เห็นคือการกระทำกับพอร์ตของเขา อาจจะสะท้อนอะไรบางอย่างของตัวฟันด์เมเนเจอร์เอง... 


Soros


duquesne











วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เยี่ยมชมสถาบัน SmartChess ที่เวียดนาม

SmartChess ของคุณ Từ Hoàng Thông( คุณห้าง ทอง)

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559  

ผมมีโอกาสได้ไปดูการสอนหมากรุกสถาบัน SmartChess ของคุณ Từ Hoàng Thông( คุณห้าง ทอง) ซึ่งผมใช้เวลาติดต่อคุณห้างทอง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ 
                         
      คุณ ห้างทองเคยได้แชมป์ grandmaster และเคยเป็นนักหมากรุกที่อายุน้อยที่สุดของเวียดนาม เขาฝึกเล่นหมากรุกตอนอายุ 9 ขวบ ในลิ้งเป็นประวัติคร่าวๆของคุณห้างทอง

จุดประสงค์ที่ผมอยากไปดูสถาบันหมากรุก SmartChess เพราะอะไร ผมอยากสัมผัสมืออาชีพของประเทศนี้ว่าเขามีลักษณะนิสัยหรือแนวคิด วิธีสอนเยาวชนของชาติเขาอย่างไร ในเมื่อเขาประสบความสำเร็จในด้านหมากรุกนี้แล้ว วินาทีที่ผมติดต่อทาง SmartChess ไปผมรู้สึกว่าเขาจะเป็นคนที่เข้าถึงได้ยากและต้องผ่านขั้นตอนหลายอย่าง แต่ความจริงไม่เลย พอผมติดต่อเขาเสร็จเขาให้เบอร์โทรติดต่อกลับมา ซึ่งเป็นเบอร์ของคุณห้างทอง โดยตรง ซึ่งผมก็ติดต่อเขาไปเขาก็นัดผมเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ แต่ผมอยากไปดูสถาณที่ก่อนเลยแอบแวะไปวันที่ 17 กุมภาพันธ์ก่อน ถึงวันจริงผมจะได้ไปหาเขาตรงเวลา และไม่หลงทาง ซึ่งผมก็ไปเจอสถาบันเขาซึ่งตอนนั้นเขาปิดอยู่ วันที่18 เขาขอเลื่อนนัดไปวันเสาร์ที่20 กุมภาพันธ์แทน เพราะเขาติดส่งนักเรียนไปแข่งหมากรุก



เช้าวันที่ 20 ผมก็ไปถึงสถาบัน SmartChess ซึ่งก็เจอเด็ก 6 คนพร้อมกับพี่ของคุณห้างทอง พอผมเข้าไปเขาก็กวักมือเรียกผมทันที และให้ผมไปเล่นหมากรุกกับนักเรียนเขาทันที โดยที่บรรยากาศเป็นกันเองมาก พี่ของคุณห้างทองเขาใจดีมากเป็นกันเอง เขายินดีที่ผมแวะเข้าไปดูการสอนของเขา ตอนผมเล่นกับน้องนักเรียนพี่ของคุณห้างทองเขาก็แวะมาดูกระดานเป็นระยะๆ ผมรู้สึกได้เลยว่านักเรียนเขาเล่นเป็น และไม่เดินมั่วๆ คู่ต่อสู้ผมคนแรกเป็น เด็กผู้หญิงน่าจะประมาณ ป.5 ชื่อน้องนิด  เขาเล่นเก่งมากและหาจังหวะไหวพริบดี เดินไม่พลาดซักตาเลย ผมก็เลยเล่นแพ้ไป ใช้เวลาเล่น 30 นาที คุณห้างทองก็เขามาพร้อมกับเด็กนักเรียนอีก 3 คน หลังจบเกมพอดี ผมก็ชมน้องเขาว่า เล่นเก่งจังเลย เขาก็ยิ้มดีใจเล็กน้อย

(น้องนิด ป.5 คู่แข่งคนแรกของผม พี่ของคุณห้างทองแนะนำให้เล่นด้วย (ทางขวาพี่ของคุณห้างทอง))



หลังจากที่เล่นกับ นักเรียนป.4 เสร็จ  คุณห้างทองเอง ก็ให้ผมมาเล่นกับน้องอีกคน ซึ่งเด็กกว่าน่าจะประมาณป.2 ชื่อน้องเนย (จริงๆชื่อน้องพูดยากมาก นิน นุย อะไรสักอย่าง ) น้องคนนี้ใช้เวลาคิดนานกว่าผมมากๆ และบางจังหวะเดินก็เหมือนจะสนใจอย่างอื่นรอบข้าง เหมือนเด็กที่พยายามจะมีสมาธิ แต่ก็มีมองออกไปนอกกระดานบ้าง แต่ต้องยอมรับเลยว่า การเดินหมากของน้องเขา ไม่มีพลาดเลย ช้าๆแต่ชัว ค่อยๆเดินทีละตัวๆอย่างใจเย็น ระหว่างนั้น คุณห้างทองก็เขามาดูกระดานเป็นระยะๆ จนสุดท้ายผมก็โดนน้องเขาตะล้อมๆ กินไปทีละตัวๆ จนกระทั่งหมากผมจนมุม ซึ่งระหว่างเล่นน้องเขาเดินมากสวยมากๆ ทั้งครูห้างทอง และนักเรียนก็สนใจกระดานที่ผมเล่น นักเรียนและครูก็ชม ว่าน้องเนยเดินหมากสวย ผมก็ชมน้องเขาจริงๆ


(น้องเนยใช้เวลาคิดอย่างรอบคอบตลอดการเล่นและมีสมาธิในการเล่น สุดท้ายก็ชนะผม น้องเขารู้สึกภูมิใจ อิอิ)



ผมได้เห็นวิธีการสอนของคุณห้างทองหลายอย่าง คือคุณห้างทอง เขาใสใจนักเรียนมาก รักลูกศิษย์ทุกคน เขาไม่เคยด่าลูกศิษย์ตัวเองเลย เขาเป็นคนอย่างนั้นเพราะว่า ระหว่างที่เขาสอน เขาจะถามนักเรียนว่าเดินตัวไหนดี นักเรียนก็แย่งกันตอบโดยไม่อาย หรือกลัวผิดเลย แสดงว่าคุณห้างทองสอนนักเรียนให้มีความกล้าคิด ระหว่างที่ผมอยู่สถาบันนั้นเขาแนะนำว่านักเรียนคนไหนพูดอังกฤษได้ เขาให้ผมไปคุยด้วยได้ ผมได้เห็นการสอนของเขา ซึ่งเป็นระบบมากๆ น้องๆเขาเรียนเป็นคอร์ด เขามีหนังสือแบบฝึกหมากรุกเลย และแต่ละวันน้องแต่ละคนก็จะได้ฝึกฝนตามระดับฝีมือ อย่างน้องเนยเด็กป.3 ก็ฝึกไปถึงขั้นที่
ต้องจำลองสถาณการณ์ของตัวหมากแล้วเลือกเดินให้ถูกว่าควรจะเดินตัวไหน ซึ่งรูปแบบหมากจะตั้งค้างไว้กลางโต๊ะ และน้องเขาจะจดใส่สหมุดเองว่า ควรเดินตัวไหน เดินอย่างไร เดืนเพราะอะไร 
(สังเกตุน้องเนยจะมีสมุด1เล่มไว้วิเคราะห์กระดานนี้ )


สถาบันนี้ใส่ใจเด็กมาก เพราะนักเรียนทุกคนจะมีสมุดพกของตัวเอง เพื่อให้ครูรีวิวว่า วันนี้นักเรียนทำอะไรบ้าง เล่นหมากรุกพลาดตรงไหน วันนี้เด็กนิสัยอย่างไร จดเป็นสมุดให้ผู้ปกครองดูทุกคน ซึ่งผมก็แอบดีใจเล็กๆ ที่เห็นในสมุดของน้องเนย ป.3 ครูห้างทองเขียนประมาณว่า วันนี้น้องชนะแขกที่มาจากประเทศไทย ผมเห็นเขาเขียน อะไรthailand ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เด็กน่าจะภูมิใจ ^^ ผมรู้สึกว่าที่นี้เขาก็รู้สึกดีใจเหมือนกันที่มีต่างชาติให้ความสำคัญแวะมาเยี่ยมชม เขาก็แสดงอะไรหลายๆอย่างให้ผมเห็นอย่างภูมิใจ 



(นักเรียนที่นี้ค่องข้างจะอายกล้องพอสมควร )



(คุณห้างทอง กำลังสอนเด็กๆ ในการคิดวิธีเดินหมาก การเดินช่องต่อช่องเลยทีเดียว )






(บรรยากาศของสถาบัน SmartChess  )



 ผมก็ไม่ได้หวังเอาเคล็ดลับหมัดเด็ดวิชาหมากรุกจากคุณห้างทอง แต่สิ่งที่คุณห้างทองให้ผมเขาเปิดบ้านยินดีให้ผมถามและดูวิธีการสอนทุกอย่างว่าเขาสอนนักเรียนอย่างไร Lv1 ให้นักเรียนคิดอย่างไร Lv2 ให้นักเรียนคิดอย่างไร นักเรียนที่ดีเป็นอย่างไร นักเรียนเขาสนใจในหมากรุกบางคนถึงกับมี แอพหมากรุกในมือถือเพื่อดูวิธีการเล่นย้อนหลัง ซึ่งผมคิดว่านักเรียนเขาสนใจไม่ใช่เรียนแค่ผ่านๆ และ ผมสัมผัสได้ว่าคุณห้างทองเขาชอบหมากรุกจริงๆ เขาใช้ชีวิตอยู่กับมันเขาภูมิใจที่ได้อยู่ในวงการหมากรุก เขาไม่ใช่คนที่จมอยู่กับชัยนะในอดีตเพราะเขาไม่เคยพูดถึงชัยนะแต่เขากำลังแสดงสิ่งที่เขาคิดผ่านการปฎิบัติ  เขาหวังที่จะพัฒนาเยาวชนให้มีพื้นฐานวิธีคิดที่ดี ซึ่งจากที่ได้สัมผัสน้องๆนักเรียนด้วยตัวเอง เขาไม่กลัวต่างชาติ เขากล้าพูดอังกฤษ เขากล้าถาม คุณห้างทองก็บอกว่าสามารถมาเยี่ยมชมสถาบันเขาได้ตลอด ถ้าอยากมาเยี่ยมตอนไหน ก็ทักทายมาทาง E-mail ได้ตลอดเขายินดีที่จะเปิดบ้านให้พวกเราเยี่ยมชมเพื่อนำสิ่งที่ดีๆไปเป็นแบบอย่างได้ ผมก็ขอบคุณคุณห้างทองมากๆ ที่เปิดโอกาสให้ผมแวะมาเยี่ยมชมการเรียนการสอนหมากรุก ให้เยาวชนของประเทศ ผมยินดีช่วยเขาเท่าที่กำลังผมพอจะมี 

สุดท้ายนี้คือสิ่งที่ผมภูมใจ นี้คือภาพที่คุณห้างทองถ่ายเอง ขณะที่ผมเล่นหมากรุกกับนักเรียนของเขา และเขาก็นำรูปมาโพตส์ไว้ในเพจเขา (Trường Cờ Vua SmartChess ) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกดีที่มีชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมและสนใจ อาจเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ผมจะทำให้เขาได้บ้าง ก็คือ ฝากชื่อเสียงว่า คนไทยมาแพ้ให้เด็กนักเรียนเขาแล้ว  ฮ๋าๆๆๆ