วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เพิ่มถังพลังงาน


เพิ่มถังพลังงาน

หลังจากที่ผมได้รับรู้ถึงรูปแบบการฝึก ครั้งต่อไป ผมก็คิดว่าทำยังไงให้พลังงานเรามีที่เก็บมากขึ้น (ทีละนิดๆก็ยังดี) โดยกิจกรรมต่างๆ ผมจะบันทึกไว้เป็นตารางๆ จะได้รู้ว่าช่วงเดือนนี้ ผมเอาพลังงานที่เหลือไปพัฒนาอะไรบ้างไปโฟกัสส่วนไหนบ้างง กิจวัตรที่ทำทุกวันก็คือ เดินออกไปซื้อกับข้าว ระยะทางไปกลับ 3กิโล ใช่ครับ3กิโล 555555+

เดือนนี้จะเห็นว่า การเล่นหมากรุกของผมจะน้อยลงเพราะผมเอาพลังงานไปลงกับ การอ่านหนังสือมากขึ้น ทำให้มีสมาธิอ่านได้ยาวนานและต่อเนื่อง ส่วนกิจกรรมเกมเป็นเกมเต้น(Touch online) ที่ต้องใช้สายตาแล้วก็นิ้วมือ การพัฒนาทักษะเกมเต้นทำให้ผมใช้สมองและการตอบสนองได้ดีขึ้น และช่วยทำให้ผ่อนคลายทางด้านจิตใจมากขึ้น(เกรียนในเกม)ฮ่าๆ

 แต่อนาคตจะต้องลดส่วนเกมนี้ออกไปบ้าง เพราะทักษะเริ่มเก่งมากขึ้นแล้ว ก็คือระดับ 6ดาว สามารถเล่นได้ 70-80%แล้วแต่ก็ยังกากอยู่ฮ่าๆๆๆ55 ต้องฝึกๆๆ

ส่วนเวลาที่เหลือตอนนี้ ส่วนใหญ่จะใช้เทรด และผมก็บันทึกทำกราฟเก็บข้อมูลในตลาดเป็นโมเดลเล็กๆด้วย เพิ่มมุมมองการ mix สินค้า ส่วนนี้ได้ดึงพลังงานผมมากพอสมควรในการทำอาทิตย์แรกๆ(2สินค้า)  แต่ตอนนี้ผมสามารถคุม 6 mix สินค้าได้แบบไม่เพลียแล้ว เพราะทำมันเป็นกิจวัตรไปแล้ว


เพิ่มขีดความสามารถ 
หลังจากที่บอสบอกว่าในการสอนรูปแบบต่อไป ห้องเรียนจะไม่ให้มีการบันทึกอะไรทั้งนั้น ให้จำเนื้อหาวิธีการเอาเองใครจำได้แค่ไหนก็เอาไปใช้แค่นั้น เพราะเนื้อหามันไม่สามารถเผยแพร่ได้ ผมจึงต้องเตรียมตัวก่อนล่วงหน้าไม่งั้น ตายแน่ๆสมองบวม 55+

ผมจึงต้องเริ่มฝึกที่จะใช้สมองจดจำเนื้อหาบ้างแล้ว เริ่มจากการเข้าประชุมโดยการไม่จดอะไรสักตัวลงในสมุด แล้วค่อยกลับมาจดบันทึกทั้งหมดหลังประชุมแทน 5555+ เป็นกิจกรรมที่ผมคิดว่าเสี่ยงมากสำหรับผม หากผมจำข้อมูลมาได้ไม่หมดเนื้อหาก็จะไม่ครบที่จะใช้เป็นพื้นฐานต่อไป..ผมเป็นคนชอบจดลายละเอียดมากๆ

ครั้งแรกที่ผมทำจำได้เลยว่าหัวบวมมากๆ เป็นข้อมูลระดับจำอย่างเดียว2 ชั่วโมง ผมสามารถเอามาบันทึกได้แค่ เนื้อหา1ส่วนเท่านั้น ทำให้รู้เลยว่าพลังงานที่เราสะสมๆมาจากการเล่นหมากรุก 1000กว่ากระดาน นั้นเอาพลังงานมาใช้จริงได้แค่ส่วนเดียว
ต้องใช้เวลาฝึกฝนอีกหลายๆปี กว่าฐานพลังงานมันจะเพิ่มขึ้น

ครั้งที่2 ผมก็ทำรูปแบบเดิมคือ เป็นข้อมูลระดับ2ชั่วโมง เอาสมุดเข้าห้องประชุมแล้วไม่จดเลย จำข้อมูลเนื้อหาทั้งหมด แล้วเอาออกมาจดใส่สมุดทีหลัง รอบนี้ผมสามารถทำได้ดีมากๆ ผมพอใจกับเนื้อหาที่ตัวเองสรุปสุดๆ

ครั้งที่ 3 ก็ทำรูปแบบเดิม แต่ครั้งนี้คือ เป็นการจำเนื้อหาที่อัดแน่ทั้งนั้นระดับ 3.30 ชั่วโมง เป็นเนื้อหาจำเพาะหัวข้อ ระหว่างที่ผมใช้สมองจำเนื้อหา ในใจก็คิดเสมอว่า ซวยละ จะจำหมดไหมนี้ เนื้อหาล้วนๆ เยอะด้วย ถ้าลืมส่วนไหนไปนิยุ่งเลย 5555

สุดท้ายด้วยพื่นที่สมองอันจำกัดของผม ก็กลั่นกรองเนือหาออกมาได้ส่วนนึง ซึ่งต้องยอมรับว่าจำได้ไม่หมดแน่ 100% แต่การเอาข้อมูลมาบันทึกกินเวลาผมไป 3 ชั่วโมง 4หน้ากระดาษ แต่ไม่รู้สึกว่าสมองเหนื่อล้าเท่าไร  เพราะผมยังกลับมาเล่นหมากรุกชนะได้ 3:1กระดานแพ้แบบกลยุทธ์สุ้ไม่ได้ ถ้าแพ้แบบประมาท แสดงว่าสมองล้า....
  อ่อการบันทึกทั้งหมดผมใช้มือข้างที่ไม่ถนัดเขียนเป็นสรุปนะครับ 5555+





สิ่งที่ค้นพบใหม่ คือการอ่านหนังสือสามก๊ก ผมเพิ่งจะเคยอ่านเล่มแรกเลย เรื่องวิถีอำนาจสุมาอี้ บอกได้เลยว่าสามก๊กมันเป็นหนังสือสอนกลยุทธ์ที่ดีมากๆ เป็นพื้นฐานรากฐานทั้งหมด ของกลยุทธ์เลยก็ว่าได้....ตามความคิดผมนะครับเพราะสามก๊ก สอนระบบคิด ระบบคิดกลยุทธ์ที่เป้นพื้นฐานการวางแผน  นักกลุยทธ์คนควรจะต้องอ่านเรื่องนี้ ไม่ใช่อ่านแล้วจำธรรมดานะครับ
อ่านแล้วต้องคิดวิเคราะห์ แม่ทัพทุกคนใช้ตำราพิชัยสงคราม กุนซือทุกคนใช้พิชัยสงคราม เหมือนๆกัน แต่ผลมันออกมาต่างกัน

จากการอ่านหนังสือสามก๊กเล่มเล็กๆ ที่ผมได้เห็นคือ มุมมองการทำสงครามระหว่างทหาร-ทหาร แม่ทัพ-แม่ทัพ  กุนซือ-กุนซือ ซึ่งรูปแบบพื้นฐานแนวคิดการรบมันต่างกันมากๆ ขงเบงมอง สุมาอี้ยังไง เอาตำราอะไรเป็นฐานวัดว่าสุมาอี้จะทำอะไร ขงเบงไม่ได้เดาข้อมูลเอาแบบมั่วๆนะครับแต่เป็นการมองแบบเอามุมมองของเขา กลยุทธ์เขามาเปรียบเทียบกัน การรบระดับกุนซือนิสุดยอดจริงๆ หากเราอ่านแล้วเอาตำราพิชัยสงครามมาจับ จะทำให้เห็นรูปแบบกลยุทธ์ที่มากขึ้น

บอกได้เลยว่าความรู้ผมที่มีตอนนี้ ต่อเรื่องสามก๊กนั้น เท่าหางอึ่งนะครับ ซึ่งมันน้อยนิดมากๆ ผมกำลังหาอ่านแบบจริงจัง การเอาตำราอะไรมาใช้มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งสิ้น

 "หนังสือเล่มเดียวกัน แต่คนอ่านแล้วได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันเพราะอะไร...เพราะจุดประสงค์ในการอ่านครั้งแรกยังไง จุดประสงค์ต่างกัน ผลลัพธ์ก็ต่างกัน " อิอิ




ตัวจุดพลังงานของผม 

บอสเคยสอนว่าแต่ละคนจะมีตัวจุดไฟในตัวไม่เหมือนกัน บางคนใช้เงิน บางคนใช้งาน บางคนอยากช่วยเหลือคนอื่น
 ซึ่งแต่ละอย่างมันมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

ผมรู้ตัวว่าตัวจุดไฟของผม คือการทำงาน เพราะผมคิดว่าผมอยากเป็นส่วนหนึงในบ.นี้ เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นยิ่งใหญ่มาก
 เขาสามารถmoveคนได้ เขาช่วยเหลือสังคม เขาสามารถเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างถึงแม้จะยังไม่ใหญ่โตแต่ก็มากพอที่จะเปลี่ยนได้ ละถ้าหากเราช่วยให้บ.เราดีให้ได้ บ.เราติดระดับโลก ไม่ใช่แค่ บ.จะได้ประโยชน์อย่างเดียว

 คนในบ.ก็จะเติบโตขึ้นไปด้วย ผมได้เห็นการเติบโตของบ.นี้ จากการปฎิบัติจริงๆของceo และการให้เกียติคนในองกรโดยการให้อิสระในการเลือกสิ่งต่างๆที่เหมาะสมกับตัวเอง จึงทำให้ผมอยากสนับสนุนคนๆนี้ ผมจึงตั้งใจทำงานเท่าที่ความสามารถผมจะพัฒนาได้

 แม้ผมจะเป็นเฟืองตัวเล็กๆในองกรแต่ผมก็หวังอยากจะช่วยสนับสนุน บ.ให้เติบโตยิ่งใหญ่ไปให้ได้ แม้สิ่งที่ผมทำมันดูเล็กน้อยในสายตาคนอื่นๆแต่มันยิ่งใหญ่สำหรับโลกเล็กๆของผมแล้ว ผมคิดว่าคนเราพัฒนาได้ เรียนรู้ได้ ผมพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองและสนับสนุน ceo ที่มีคุณธรรมและสร้างสรรค์สิ่งดีๆ หากถึงแม้ผมผมทำไม่สำเร็จแต่ก็คุ้มสุดๆที่ได้ทำแล้ว ^0^ ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบว่าข้อเสียของคนประเภทนี้คืออะไร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น